จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ บทที่ 1251
จนกระทั่งตอนที่หลินหยุนกลับมาถึงเมืองเทียนหยุน พาตัวซิงเฟยจากไปนั้น ภายในสมองของพวกคนเหล่านี้ ถึงขนาดที่ว่างเปล่ากันไปหมด โดยอยู่ที่กลางอากาศ ไม่ได้เคลื่อนไหวอะไร
หลินหยุน ช่างน่ากลัวมากเหลือเกิน
พวกเขาไม่เคยได้พบเจอผู้บำเพ็ญฝึกฝนที่แข็งแกร่งขนาดนี้มาก่อน
เริ่มแรกเผชิญหน้ากับเจียงยี่ที่เป็นยอดฝีมือขั้นยาทองระดับสี่ ก็ไม่ถือว่าเท่าไร จากนั้นก็ได้เผชิญหน้ากับยอดฝีมือขั้นยาทองระดับห้าอีกสองคน
ท้ายที่สุด ยังได้เผชิญหน้ากับยอดฝีมือขั้นยาทองระดับห้าอีกสามคน โดยหนึ่งในนั้นยังมีขั้นยาทองระดับหกอีกหนึ่งคน ซึ่งไม่นึกว่าจะถูกเขาสังหารลงได้ทันที มีเพียงแค่ผู้อาวุโสคนที่สี่ขั้นยาทองระดับหก ที่สามารถหลบหนีเอาตัวรอดไปได้
นี่มันช่างน่าสะพรึงกลัวขนาดไหน?
อย่าพูดเลยว่าเคยพบเห็น ก่อนหน้าวันนี้นั้น ก็ยังไม่เคยได้ยินมาก่อนเลย
ต่อให้คนอื่นพูดแบบนี้ พวกเขาเองก็คงจะไม่เชื่ออย่างเด็ดขาด
หลินชางฉองนั้น ราวกับว่าเป็นเทพสังหารอย่างไรอย่างนั้น
เก่งกาจไร้คู่ต่อกร!
ผู้อาวุโสคนที่สี่กลับมาถึงสำนักเทียนหยุน ก็รีบเหาะเหินขึ้นไปยังยอดเขาที่ซึ่งเป็นที่ตั้งของสำนัก
ไม่นาน ก็เกิดเสียงระฆังใหญ่ดังขึ้นติดต่อกัน โดยเสียงระฆังนั้นดังกังวานไปทั่วทั้งสำนัก
ลูกศิษย์ทุกคนต่างก็หยุดฝีเท้าหยุดทุกการกระทำลงกันหมด และพากันตกตะลึงขึ้นทันที
“เกิดอะไรขึ้น? ”
“ระฆังทองม่วงของสำนักทำไมถึงได้ดังขึ้นอย่างกะทันหัน? ”
“ผิดสังเกต มีแต่เวลาที่สำนักประสบกับเหตุร้ายอันตรายเท่านั้น ระฆังทองม่วงจึงจะถูกลั่นให้ดังขึ้น”
“คงจะต้องเกิดเรื่องใหญ่ขึ้นแล้วเป็นแน่! ”
ลูกศิษย์ทั้งหมดของสำนักเทียนหยุน ต่างก็พากันตื่นตระหนกขึ้นทันที
ผ่านไปชั่วครู่ เงาร่างที่แข็งแกร่งทรงพลังอย่างที่สุดจำนวนนับไม่ถ้วน ก็ได้มุ่งหน้าไปยังทิศที่ตั้งของสำนักเทียนหยุนอย่างรวดเร็ว
แรงกดดันถาโถมอย่างไร้ขอบเขต สะเทือนเลือนลั่นไปทั่วฟ้าดิน แพร่ปกคุลมไปทั่วทั้งสำนัก
เห็นดังนั้นแล้วลูกศิษย์ทุกคนต่างก็ตกใจจนกลืนน้ำลายลงอย่างไม่รู้ตัว
แต่ มีน้อยคนนักที่จะรู้ว่า ตกลงเกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่
เวลานี้ ภายในวิมานของเจียงเผิง อลหม่านวุ่นวายไปกันหมด
โดยก่อนหน้านี้ไม่นาน เจียงเผิงที่มีความมั่นอกมั่นใจอย่างมากนั้น เวลานี้ได้ตกอยู่ในสภาพที่บ้าคลั่งอย่างที่สุด คนที่อยู่ด้านข้างทั้งติงหลิง หลิ่วหยางและคนอื่น ๆ ต่างก็พยายามใช้กำลังควบคุมตัวเขา แต่เจียงเผิงในสภาวะที่บ้าคลั่งนั้นได้แสดงพลังอานุภาพที่น่าสะพรึงกลัวอย่างที่สุดออกมา
แม้ว่าพวกเขากี่คนจะทำอย่างเต็มที่แล้ว แต่ก็ยังคงต้องพยายามจนถึงที่สุด จึงจะสามารถควบคุมตัวเขาไว้ได้
ติงหลิงรีบพูดขึ้นว่า “ศิษย์พี่เจียง คุณเป็นอะไรไป? คุณใจเย็นลงหน่อย หากเป็นแบบนี้มันจะอันตรายนะ! ”
หลิ่วหยางเองก็พูดขึ้นอย่างหนักแน่นว่า “ศิษย์พี่เจียง! ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น จะต้องใจเย็นเอาไว้! ใจเย็นนะ! ”
ดวงตาสองข้างของเจียงเผิงแดงก่ำอย่างที่สุด และร่างกายก็ปลดปล่อยลมหายใจที่โกลาหลวุ่นวายอย่างมากออกมา
ที่ใบหน้า ลำคอ ท่อนแขน ล้วนปรากฏหลอดเลือดสีเขียวขึ้นอย่างชัดเจน
ปากก็ตะโกนเสียงดังไม่หยุดว่า “หลินหยุน! หลินชางฉอง! ฉันสาบานว่า ไม่ว่าแกจะอยู่ที่ไหนแห่งใด ฉันจะต้องฆ่าแกให้ได้! ”
“ฉันจะต้องฆ่าแก! ”
“ฉันจะต้องฆ่าแกให้ได้……”
ติงหลิงรีบเอ่ยปากขึ้นว่า “ศิษย์พี่เจียง ตกลงเกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่? ”
เจียงเผิงได้ยินดังนั้น ก็หัวเราะอย่างบ้าคลั่งออกมา
“ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า! ”
“เกิดเรื่องอะไรขึ้น? ”
“ดีเลย ฉันจะบอกให้เธอรู้ว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้น! ”
“เจียงยี่พี่ชายของฉัน ปู่ของฉัน ซึ่งก็คือผู้อาวุโสสิบ ล้วนเสียชีวิตลงด้วยน้ำมือของหลินหยุนทั้งหมดแล้ว! ”
“ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า! ”
“ทั้งหมดได้เสียชีวิตลงด้วยน้ำมือของหลินหยุนแล้ว! ”
ได้ยินที่เจียงเผิงพูด จิตใจของทุกคนราวกับถูกคลื่นยักษ์ซัดโหมกระหน่ำ ซึ่งไม่กล้าที่จะเชื่อกับสิ่งที่เกิดขึ้น!
“อะไรนะ? ” ติงหลิงอุทานขึ้นอย่างตกใจว่า “นี่เป็นไปได้อย่างไรกัน? หลินหยุนผู้นั้น เป็นไปได้อย่างไร แม้แต่กับผู้อาวุโสสิบทำไมเขาถึงยังได้……”
“ใช่เลยศิษย์พี่เจียง เข้าใจผิดอะไรไปหรือเปล่า? ผู้อาวุโสสิบมีพลังบำเพ็ญที่สูงส่ง เป็นไปไม่ได้ที่จะเสียชีวิต และยิ่งเป็นไปไม่ได้เลยที่จะเสียชีวิตภายใต้น้ำมือของหลินหยุน! ”
หลิ่วหยางเองก็เบิกตาโพลง พูดขึ้นด้วยความเหลือเชื่อ
เจียงเผิงหัวเราะอย่างบ้าคลั่งอีกครั้ง “พวกเธอไม่เชื่อใช่ไหม? ”
“ฉันเองก็ไม่เชื่อเช่นกัน! ”
“ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า! ”
“แต่ว่า เมื่อสักครู่ตระกูลของฉันเพิ่งจะส่งข่าวมาบอกว่า ป้ายวิญญาณของพี่ชายและปู่ของฉัน ต่างก็ได้แตกสลายลงหมดแล้ว! ”
“ฮ่าฮ่าฮ่า! ”
“ไม่เพียงเท่านี้ ผู้อาวุโสห้า ผู้อาวุโสเจ็ด ผู้อาวุโสแปด ต่างก็ถูกหลินหยุนสังหารทั้งหมดแล้ว ส่วนผู้อาวุโสสี่ที่ร่วมเดินทางไปด้วยนั้น ก็ถูกหลินหยุนทำร้ายจนต้องหลบหนีหัวซุกหัวซุนไปแล้ว! ”
“ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า! ”
“สำนักเทียนหยุนที่ยิ่งใหญ่นี้ มีผู้อาวุโสจำนวนมากมาย แต่คิดไม่ถึงว่าจะถูกเด็กหนุ่มอย่างหลินหยุนสังหารจนแทบจะไม่เหลือแล้ว! ”
“ช่างน่าขันเสียจริงเลย! ”
“ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า! ”
ติงหลิงกับหลิ่วหยางและคนอื่น ๆ ได้ยินดังนั้น ร่างกายก็พลันสั่นไหวขึ้นอย่างรุนแรง ในสมองก็ว่างเปล่าไปทั้งหมด
หลิ่วหยางตะโกนขึ้นอย่างบ้าคลั่ง “เป็นไปไม่ได้! ศิษย์พี่เจียง มันคงเป็นไปไม่ได้อย่างเด็ดขาด! ”
เจียงเผิงสีหน้ามืดมน หัวเราะอย่างบ้าคลั่งและพูดขึ้นว่า “นายไม่เชื่อ? พวกเธอต่างก็ไม่เชื่อ? ฉันเองก็ไม่เชื่อเหมือนกัน! ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า แต่ว่า ข่าวนี้ทางศิษย์พี่เซียวยู่เป็นผู้ส่งจดหมายมาบอกกับฉันด้วยตัวเอง! ”
“หรือว่า สิ่งที่เขาพูดนั้นจะเป็นเรื่องไม่จริงอย่างนั้นเหรอ? ”
“ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า! ”
“หรือว่า เมื่อครู่พวกเธอไม่ได้ยินเสียงของระฆังทองม่วงดังขึ้นอย่างนั้นใช่ไหม? ”
“หากไม่เป็นความจริง ระฆังทองม่วงจะเกิดเสียงดังขึ้นไหมล่ะ? ”
“ฮ่าฮ่าฮ่า! ”
“ฉันเองก็ไม่อยากที่จะเชื่อ ฉันเองก็ไม่อยากที่จะไปเชื่อเหมือนกัน! ”
เจียงเผิงตะโกนโวยวายอย่างบ้าคลั่ง ดวงตาสองข้างแดงก่ำอย่างที่สุด
ขณะที่หัวเราะอย่างบ้าคลั่งนั้น ดวงตาสองข้างก็มีน้ำตาไหลออกมาอย่างไม่หยุด
เจียงยี่ พี่ชายของเขา!
ได้ไปต่อสู้เพื่อกู้หน้ากู้ศักดิ์ศรีคืนให้กับเขา จึงโดนหลินหยุนสังหาร!
ปู่ของเขา ก็เพื่อแก้แค้นให้กับพี่ชายของเขา ซึ่งก็ถูกหลินหยุนสังหารลงด้วยเช่นกัน!
ส่วนผู้อาวุโสอีกหลายคน เพื่อที่จะช่วยเหลือปู่ของเขา ก็ได้ถูกหลินหยุนสังหารเหมือนกัน
ตอนนี้เขาเองสำนึกผิดและละอายแก่ใจอย่างมาก!
ทำไมเขาจะต้องดื้อรั้นเพื่อที่จะเอาชนะด้วย?
ทำไมเขาจะต้องไปมีปัญหาทะเลาะกับหลินหยุนผู้ที่โหดเหี้ยมอำมหิตนั้นด้วย!
ทำไมเขาจะต้องทำแบบนั้นด้วย!
ถ้าหากเรื่องทั้งหมดนี้ไม่เกิดขึ้น ก็คงจะเป็นการดีอย่างมาก!
แต่น่าเสียดายที่ การเสียใจและสำนึกผิดในภายหลังนั้นไม่เกิดประโยชน์อะไรเลย!
……
อีกฝั่งหนึ่ง หลินหยุนได้พาซิงเฟยเหาะเหินอยู่ในอากาศ ด้วยความรวดเร็วอย่างมาก
เขาในตอนนี้ ก็มีสีหน้าที่ขาวซีดอย่างที่สุดเช่นกัน
สู้รบศึกใหญ่ติดต่อกัน ทำให้เขาสิ้นเปลืองพลังงานไปอย่างมาก โดยเฉพาะในตอนสุดท้ายที่แสดงพลังย่ำเท้าเก้าทีนั้น ยิ่งสิ้นเปลืองพลังงานอย่างที่สุด
ซิงเฟยถามขึ้นอย่างร้อนใจว่า “นาย ได้ลงมือสังหารเจียงยี่แล้วจริง ๆ ใช่ไหม? ”
หลินหยุนพยักหน้า โดยที่ไม่ได้พูดอะไร และได้ขับเคลื่อนพลังบำเพ็ญอย่างบ้าคลั่ง เพื่อเพิ่มความเร็ว
แต่จากนั้นไม่นาน ด้านหลังของพวกเขาทั้งสองคนก็มีห้าถึงหกลมหายใจอันทรงพลังไล่ตามมา ด้วยความเร็วสูงสุด ซึ่งน่าเหลือเชื่อยิ่งนัก
หลินหยุนกะพริบตา แล้วพลิกฝ่ามือ แผ่นทองเกล็ดมังกรก็ปรากฏขึ้น
แล้วก็ได้โยนไปที่เบื้องหน้า
แผ่นทองสัมผัสกับลม จึงได้ขยายใหญ่ขึ้น
หลินหยุนพาซิงเฟยก้าวขึ้นไปด้านบน
แผ่นทองนั้นมีความรวดเร็วอย่างเหลือเชื่อ กลายร่างเป็นเศษเงา แล้วก็เหาะหนีหายไปทันที!
รู้สึกได้ว่าหลินหยุนนั้นได้เพิ่มความรวดเร็วขึ้นอีก ยอดฝีมือสำนักเทียนหยุนหลายคนที่อยู่ด้านหลังต่างก็พากันตกตะลึง คาดคิดไม่ถึงกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
โดยเฉพาะอย่างยิ่งหมิงเหอผู้ที่เป็นรองเจ้าสำนัก
ทราบกันดีว่า เขาเป็นถึงยอดฝีมือขั้นยาทองระดับแปด ซึ่งในโลกคุนชางนั้น ถือได้ว่าเป็นยอดฝีมือสูงสุดที่นับจำนวนได้เลย!
แต่ภายใต้การไล่ติดตามอย่างเต็มกำลังของเขา คิดไม่ถึงว่าฝ่ายตรงข้ามยังจะสามารถเพิ่มความเร็วได้อีก อีกทั้งหลังจากที่เพิ่มความเร็วแล้วนั้น ถึงขั้นที่เกิดระยะห่างกับเขามากขึ้นไปอีกอย่างเห็นได้ชัด
สิ่งนี้ทำให้เขาอดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้วสงสัยขึ้น
หรือว่า……
ผู้ที่สังหารผู้อาวุโสหลายคนของสำนักเทียนหยุนที่อยู่เบื้องหน้านั้น ไม่ใช่เด็กหนุ่มอะไรอย่างที่ทุกคนพูดกัน แต่เป็นผู้อาวุโสที่มีพลังบำเพ็ญในระดับขั้นที่ใกล้เคียงกับเขาอย่างนั้นเหรอ?
เขายิ่งคิดก็ยิ่งรู้สึกว่ามีความเป็นไปได้! แต่ต่อให้เป็นแบบนี้ เขาเองก็ไม่หวาดกลัว!