จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ บทที่ 1241
หลินหยุนส่ายหัวและพูด “ไม่เป็นไร! สิ่งของพวกนี้ฉันจะรับเอาไว้ แต่เรื่องอื่นๆคุณไม่ต้องเข้ามายุ่งอีก!”
ซิงเฟยก็ไม่ได้พูดอะไรอีก
ผ่านไปไม่นาน หลินหยุนออกจากร้านอย่างเงียบๆ และกลับไปที่วิมานในโรงเตี๊ยม
แต่ในเวลานี้ ด้านนอกหอเครื่องรางทิพย์
ด้านหน้าของชายชุดดำ มีผู้ชายที่แต่งตัวเหมือนกันยืนอยู่ เป็นผู้ชายที่มีรูปร่างสูงใหญ่มากๆ
ชายชุดดำร่างเล็กพูดด้วยความเคารพ “อาจารย์ หอเครื่องรางทิพย์ไม่มีการเคลื่อนไหวใดๆเลย!”
ชายวัยกลางคนพยักหน้าและพูดอย่างเคร่งขรึม “เฝ้าดูต่อไป ต้องรู้ให้ได้ว่าคางคกทองสามเส้นอยู่ตรงนั้นหรือเปล่า!”
ชายชุดดำร่างเล็กพูดทันที “แต่ท่านอาจารย์ ถ้าหอเครื่องรางทิพย์สามารถสร้างเครื่องรางทิพย์ชั้นยอดสำเร็จ ถ้าตอนนั้นพวกเราลงมือจริงๆ มันคงไม่ใช่เรื่องดีแน่ๆ!”
ปรมาจารย์หลอมเครื่องรางคนหนึ่งไม่ได้หาเจอกันได้ง่ายๆเลย
ชายวัยกลางคนพูดอย่างเย็นชา “ในเมื่ออีกฝ่ายปกปิดฐานะตัวเอง งั้นก็อย่ามาโทษฉันละกัน!”
“คางคกทองสามเส้นนั้นสำคัญต่อสำนักมากๆ เพราะฉะนั้นมันห้ามตกไปอยู่ในมือของคนอื่นเด็ดขาด!”
“คุณค่อยเฝ้าดูการเคลื่อนไหวของฝั่งนั้นก็แล้วกัน ถ้าให้ดีที่สุดก็ต้องหาข้อมูลทั้งหมดของเขาออกมาด้วย!”
เมื่อพูดจบ เขาไม่ได้รอให้ชายชุดดำพูดอีก จู่ๆเขาก็หายไปทันที
……
หลินหยุนกลับมาถึงวิมาน เขารู้สึกตื่นเต้นเล็กน้อย
คิดไม่ถึงจริงๆว่าวิธีนี้จะมีประสิทธิภาพแบบนี้!
ในระยะเวลาสั้นขนาดนี้ เขากลับได้สมบัติล้ำค่ามาอีกหนึ่งชิ้น
ถึงแม้อีกฝ่ายจะไม่หวังดีกับตัวเอง แต่สำหรับเขาแล้ว มันไม่มีประโยชน์อะไรเลย
“เวลาครึ่งเดือน ก็พอให้เขาสร้างรากฐานแดนยาทองหนึ่งชั้นแล้ว!”
“ถ้าสามารถสร้างยาทองระดับสามได้……”
เมื่อครุ่นคิดชั่วครู่แล้ว หลินหยุนก็ล้มเลิกความคิดที่จะกลับไปที่หอว่างหยุน
ถ้าเขาใช้กำลังเข้าไปในหอว่างหยุน พลังในตอนนี้ของเขาก็ยังไม่พอ พลังของสองเยว่กับสามเยว่นั้นไม่ธรรมดาเลย พวกเธอเป็นยอดฝีมือที่แข็งแกร่งที่สุดเท่าที่หลินหยุนเคยเจอในโลกคุนชาง
โดยเฉพาะสองเยว่ เธอน่าจะเป็นยอดฝีมืออันดับต้นๆในโลกคุนชางเลย
ถ้าใช้กำลังเข้าไปในหอว่างหยุนก็คงเป็นไปไม่ได้ เพราะพวกเธอเป็นลูกศิษย์ลูกหลานของเย่เยว่ บีบบังคับพวกเธอหน่อยก็ยังได้ แต่ถ้าต้องลงมือจริงๆ มันคงเป็นเรื่องไม่ดีอย่างแน่นอน
โดยเฉพาะตอนนี้ ถ้าต้องลงมือจริงๆเขาก็คงสู้ไม่ไหว
เขาส่ายหัวและไม่คิดเรื่องเหล่านี้อีก เขาฝึกฝนต่อ
สำหรับการสร้างเครื่องรางเหล่านั้น เขาไม่ได้เร่งรีบเลย หลังจากผ่านไปสิบวัน หลินหยุนค่อยเริ่มสร้างเครื่องราง
ผ่านไปครึ่งวัน มีเครื่องรางอันหนึ่งถูกสร้างจนสำเร็จ
สำหรับเขาแล้ว มันเป็นเรื่องที่ยากลำบากเหมือนกัน ไม่ได้ง่ายเหมือนอาบน้ำกินข้าว แต่มันก็เป็นเครื่องรางที่ดี ยังมันก็สู้แผ่นทองของเขาไม่ได้
วันที่สิบห้า ชายวัยกลางคนชุดดำปรากฏตัวอีกครั้ง เขามาถึงหอเครื่องรางทิพย์
ซิงเฟยหยิบเครื่องรางชั้นยอดที่หลินหยุนสร้างขึ้นออกมา
ผ่านไปไม่นาน มีอีกคนหนึ่งปรากฏตัว จากนั้นเขาก็มาถึงหน้าประตูของหอเครื่องรางทิพย์ทันที
เมื่อเห็นชายชุดดำแล้ว ชายชราก็หัวเราะอย่างเย็นชาและพูด “เด็กหนุ่ม คิดไม่ถึงจริงๆ หลังจากขโมยสมบัติล้ำค่าของสำนักเทียนหยุนแล้ว คุณยังกล้าอยู่ในเมืองเทียนหยุนอีก!”
“วันนี้ ฉันจะดูสิว่าคุณจะหนียังไง!”
ชายชุดดำรีบพูดทันที “ผู้อาวุโสห้า รอเดี๋ยวก่อน! ตอนนี้ฉันใช้คางคกทองสามเส้นเป็นค่าตอบแทน และให้หอเครื่องรางทิพย์สร้างเครื่องรางชั้นยอดให้ฉันแล้ว!”
“เครื่องรางอันนี้สร้างขึ้นเพื่อฉันโดยเฉพาะ ตอนนี้เครื่องรางอยู่ในมือของฉันด้วย!”
“ฉันคิดว่าตัวเองสามารถต่อสู้กับผู้อาวุโสห้าได้อย่างสูสี ฉันขอเตือนให้ผู้อาวุโสห้าคิดให้ดีๆก่อนที่จะลงมือ!”
ดวงตาของชายชราเปล่งประกายทันที เขามองไปที่ซิงเฟยและถามอย่างเย็นชา “แม่นาง เขาพูดเรื่องจริงหรือเปล่า? คางคกทองสามเส้นของสำนักเทียนหยุนอยู่ในมือคุณเหรอ?”
ซิงเฟยเปล่งเสียงไม่พอใจออกมา เธอมองไปที่สองคนนั้นและพูดอย่างดูถูก “พวกคุณสองคน! ไม่จำเป็นต้องมาแสดงละครต่อหน้าฉันอีก!”
ขณะพูด เธอก็มองไปที่ชายชุดดำร่างเล็กและพูด “เอาอย่างนี้ละกัน คุณลองถอดเสื้อคลุมออกมาสิ ให้ฉันดูหน่อยว่าคุณเป็นใคร? ถ้าคุณไม่ใช่คนของสำนักเทียนหยุน ฉันจะคืนคางคกทองสามเส้นให้คุณตอนนี้เลย คุณคิดว่าไง?”
“พวกคุณสองคน อย่าคิดทำอะไรที่ไม่ดีเลย ไม่มีใครเป็นคนโง่หรอก!”
“วิธีห่วยๆแบบนี้ พวกคุณคิดว่าสามารถหลอกฉันได้เหรอ?”
“ในเมื่อหอเครื่องรางทิพย์ของพวกเรากล้ารับสมบัติล้ำค่าของพวกคุณ พวกเราก็ไม่กลัวพวกคุณมาแบล็คเมล์อยู่แล้ว!”
“พูดกันจริงๆ มีใครเห็นว่าหอเครื่องรางทิพย์ของพวกเรารับคางคกทองสามเส้นของสำนักเทียนหยุนไว้เหรอ?”
“พวกคุณสองคนมีหลักฐานไหม ถ้าไม่มีหลักฐานก็อย่ามาพูดใส่ร้ายคนอื่น!”
“คางคกทองสามเส้นอันนั้น ทุกคนรู้ดีว่ามันเป็นสมบัติล้ำค่าของสำนักเทียนหยุน ใครมีความสามารถขโมยมันออกมาและเอามาเป็นค่าตอบแทนในการสร้างเครื่องรางได้เหรอ?”
เมื่อชายชราได้ยินคำพูดเหล่านี้ สายตาอันลึกล้ำของเขาก็ค่อยๆหรี่ลงทันที
เขาหัวเราะออกมาและมองไปที่ซิงเฟยแล้วพูด “แม่นางปากจัดจริงๆ! อย่างไรก็ตาม เธอคิดว่าเอาคางคกทองสามเส้นของพวกเราสำนักเทียนหยุนไปแล้ว พวกคุณจะไม่เป็นอะไรเลยเหรอ? มันดูตลกสิ้นดี!”
ชายชราครุ่นคิดชั่วครู่และพูดอย่างโหดเหี้ยม “รีบเอาสมบัติล้ำค่าของสำนักเราคืนมา มิฉะนั้นชีวิตของเธอจะไม่ปลอดภัย! ไม่ว่าเบื้องหลังของเธอจะมีสำนักไหนค่อยช่วยเหลือ แต่เมื่ออยู่ในโลกคุนชางแล้ว ไม่มีใครสามารถช่วยชีวิตของเธอได้อยู่แล้ว!”
ซิงเฟยหัวเราะอย่างเย็นชาอีกครั้ง “ใช่เหรอ? ฉันก็อยากจะเห็นเหมือนกัน! อยากจะรู้เหมือนกัน ถ้าสำนักเทียนหยุนรู้ว่าผู้อาวุโสอย่างคุณเอาคางคกทองสามเส้นออกมาโดยพลการ แล้วเอามาแบล็คเมล์คนอื่น พวกเขาจะไม่เอาเรื่องคุณเลยเหรอ?”
สีหน้าของชายชราเปลี่ยนไป เขาดูโหดเหี้ยมขึ้นมาทันที
“ดูเหมือนว่าเด็กผู้หญิงคนนี้ ไม่เห็นโลงศพไม่หลั่งน้ำตาจริงๆ!”
“ในเมื่อเป็นแบบนี้ ถ้างั้นก็อย่าโทษฉันก็แล้วกัน!”
ขณะพูด เขาก็ยื่นฝ่ามือออกมา จากนั้นก็จับไปที่ซิงเฟยทันที
ในเวลานี้ มีร่างๆหนึ่งปรากฏตัวทันที และต่อยใส่ฝ่ามือจนปลิวออกไป
เมื่อเห็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทำให้อีกฝ่ายตกตะลึงทันที
หลินหยุนปรากฏตัวและยืนอยู่ด้านหน้าของซิงเฟย
ชายชราไม่ได้ลงมืออีก สายตาของเขาเต็มไปด้วยความตกใจ
เห็นได้อย่างชัดเจนว่าหลินหยุนมาถึงตั้งนานแล้ว
แต่เขากลับไม่สามารถสัมผัสได้เลย
“เด็กหนุ่ม คุณเป็นใครกันแน่?”ชายชรามองไปที่หลินหยุนและพูดอย่างเคร่งขรึม
“เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องที่คุณควรมายุ่ง!”หลินหยุนพูดอย่างเย็นชา “ตอนนี้เอาเครื่องรางของคุณและไสหัวไปซะ ฉันจะไม่เอาเรื่องพวกคุณ!”
“ถ้าไม่ยอมจากไปแต่โดยดี พวกคุณก็ไม่ต้องไปแล้ว!”
เมื่อชายชราได้ยินคำพูดเหล่านี้ เขาก็หัวเราะอย่างเย็นชา “อาศัยคุณเหรอ คุณก็เป็นแค่เด็กเล็กที่ยังไม่สิ้นกลิ่นน้ำนม? พูดแค่นี้ก็อยากจะให้ฉันจากไปแต่โดยดีเหรอ?”
“ถ้าอยากให้ฉันจากไป มันก็มีวิธีอื่นอยู่!”
“เอาคางคกทองสามเส้นที่เป็นสมบัติล้ำค่าของสำนักเทียนหยุนคืนให้ฉัน ฉันก็จะยอมจากไปทันที!”
“ถ้าไม่ยอมคืน หอเครื่องรางทิพย์ของพวกคุณก็ไม่จำเป็นต้องเปิดอีกต่อไปแล้ว!”
เมื่อหลินหยุนได้ยินคำพูดเหล่านี้ เขาก็ลงมือโดยไม่พูดพร่ำทำเพลงอีก และต่อยหมัดใส่เขาทันที
ดวงตาของชายชรากระตุกทันที เขารีบบินถอยหลังทันที
ร่างกายของหลินหยุนขยับ เขาบินขึ้นบนท้องฟ้า
ทั้งสองคนยืนอยู่บนท้องฟ้าทันที
ท่าห้ามสิ่งวายชนม์จากสิบแปดท่าต้าเต๋าถูกปลดปล่อยออกมาทันที
ห้ามสิ่งวายชนม์
ในเวลาเดียวกัน ร่างกายของหลินหยุนก็หายไปอีกครั้ง กระบี่ฉีกนภาถูกปลดปล่อยออกมาทันที
เงากระบี่นับพันนับหมื่นพุ่งลงมาจากท้องฟ้า และปิดล้อมชายชราเอาไว้ ทำให้ชายชราตกใจจนหน้าซีด
เขาคาดคิดไม่ถึงจริงๆ เด็กหนุ่มอายุน้อยคนนี้จะแข็งแกร่งได้ถึงขนาดนี้ เขาแข็งแกร่งกว่าที่ตัวเองจินตนาการเอาไว้
ในเวลานี้ การต่อสู้บนท้องฟ้าก็ดึงดูดสายตาของยอดฝีมือจำนวนไม่น้อย