จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ บทที่ 1185
ขณะนี้เอง ในที่สุดฉินห้าวเทียนที่มีสีหน้าหม่นหมองมาโดยตลอดนั้นก็ได้เอ่ยปากพูดแล้ว
“หยุดทะเลาะกันได้แล้ว! ”
“สำหรับเรื่องของหลินหยุน ตั้งแต่วันนี้ไป จบลงเพียงเท่านี้! ”
“ถ้าหากมีใครพูดถึงอีก ก็อย่าได้หาว่าฉันผู้เป็นเจ้าบ้านไม่เกรงใจก็แล้วกัน! ”
“ฉันเองก็จะขอเตือนพวกนายบางคนเอาไว้ด้วย! ”
“มีบางเรื่อง อย่าได้กระทำจนเกินไป มีบางคำพูด ก็อย่าได้พูดจนเกินไป! ”
“พวกนายอาจจะไม่เข้าใจ! ”
“นั่นเป็นเพราะพวกนายไม่จำเป็นที่จะต้องเข้าใจ! ”
“แต่ว่าเมื่อไม่เข้าใจแล้วยังจะพูดมั่วซั่วอีก ก็อย่ามากล่าวโทษว่าฉันไม่เกรงใจ! ”
“ฉินชิงถง! เธอไม่เคารพนับถือผู้ใหญ่ แม้แต่แม่บังเกิดเกล้าเธอยังกล้าที่จะพูดลบหลู่ดูหมิ่นซึ่งขัดต่อการอบรมสั่งสอนของตระกูลฉิน! ”
“ตอนนี้เธอมีอยู่สองตัวเลือก! ”
“ข้อแรก ตัดขาดความสัมพันธ์กับตระกูลฉินทั้งหมด! จากนี้ต่อไปเธอไม่ใช่คนของตระกูลฉินอีก! ”
“ข้อสอง ไปอยู่ที่เรือนเย็นคิดทบทวนความผิดของตนเองหนึ่งปี! โดยห้ามออกมาด้านนอก! ”
ได้ยินคำพูดของฉินห้าวเทียนแล้ว ทุกคนต่างก็มีสีหน้าที่เปลี่ยนไปทันที
ลักษณะท่าทางของแต่ละคนต่างก็เคร่งขรึมและระมัดระวังกันมากขึ้น
พวกคนของตระกูลฉินเหล่านี้ พูดตามตรงก็คือคนในตระกูลของฉินห้าวเทียน
แต่ตระกูลฉินนี้กลับไม่ใช่ฉินห้าวเทียนที่เป็นผู้ก่อตั้งขึ้น
ทุกสิ่งทุกอย่างของที่นี่ ล้วนแล้วแต่เกิดขึ้นมาจากแม่ของฉินเหมยทั้งหมด!
ไม่มีแม่ของฉินเหมย ก็ไม่มีตระกูลฉินในตอนนี้!
ถึงขนาดกล่าวในอีกความหมายหนึ่งได้ว่า ตระกูลฉินในตอนนี้ คงจะเรียกว่าตระกูลซิง
ฉินห้าวเทียนเหมือนกับว่าเข้ามาในสถานะคู่ครองคนหนึ่ง
นี่ก็เป็นหนึ่งเหตุผลที่ว่าทำไมตระกูลซิงแห่งเมืองเทียนเฟิง ถึงไม่ยินยอมที่จะไปมาหาสู่กับตระกูลฉินของพวกเขา
จากมุมมองของตระกูลซิงแล้ว ถึงแม้ฉินห้าวเทียนจะไม่มีความสามารถอะไรก็ไม่เป็นไร แต่ขนาดลูกสาวของพวกเราก็ยังปกป้องคุ้มครองไม่ได้ นายยังจะมีประโยชน์อะไรอีก?
ดังนั้น ฉินห้าวเทียนก็กำลังเตือนสติพวกคนรุ่นหลังเหล่านี้ในตระกูลให้รู้ว่า ควรจะประพฤติปฏิบัติตัวอย่างไรให้เหมาะสม
ฉินชิงถงสีหน้าขาวซีด
ราวกับว่าพลังงานในร่างกาย ได้ถูกดูดกลืนไปจนหมดในขณะที่ฉินห้าวเทียนพูดจบลง พร้อมกับโซเซถอยหลังไปหลายก้าว
ฉินชิงถงแสดงท่าทางดื้อรั้นปรากฏออกมาทางสายตา สูดลมหายใจลึก และพูดเสียงแข็งขึ้นว่า “เอาล่ะ! ดูเหมือนว่าเป็นความผิดของฉันทั้งหมด! ”
“ดูเหมือนว่าในตระกูลนี้ ฉันคงจะไม่มีที่ให้ยืนอีกแล้วจริง ๆ! ”
“ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ฉันก็คงไม่มีความจำเป็นที่จะต้องอยู่ที่นี่อีกต่อไปแล้ว ฉันจะไปเดี๋ยวนี้! ”
“ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ฉันไม่ใช่คนของตระกูลฉินอีกต่อไปแล้ว! ”
พูดจบ ก็หันหลังวิ่งออกไปพร้อมกับร้องไห้
ฉินเหมยเห็นเหตุการณ์ดังนั้น ก็รีบไล่ตามออกไปทันที แต่เมื่อก้าวออกไปนั้น ก็หยุดลงอยู่กับที่ เธอเสียใจมากที่สุดจริง ๆ
ส่วนอีกฝั่งหนึ่ง
หลินหยุนกับซิงเฟยทั้งสองคน ก็ได้เดินทางมาถึงด้านนอกของเมืองสุริยันอีกครั้งแล้ว
อีกทั้งยังได้ยินข่าวว่าถ้าหากเขาไม่ปรากฏตัว สำนักสุริยันก็จะลงมือจัดการกับตระกูลฉิน
สำหรับข่าวนี้นั้น ทั้งสองคนต่างก็ไม่รู้สึกแปลกใจอะไร
ซิงเฟยยิ้มเยาะและพูดว่า “ไม่น่าแปลก! ถ้าหากพวกเขายินยอมตามนั้นจริง ๆ ถึงจะเป็นเรื่องที่น่าแปลก! ”
ขณะที่พูด ก็หันมองไปที่หลินหยุนและพูดขึ้นว่า “นายคงต้องปรากฏตัวออกมาจริง ๆ ใช่ไหม? จะว่าไปแล้ว นี่ก็ไม่ใช่เรื่องเล่น ๆ เลยนะ! ”
หลินหยุนสีหน้าท่าทางไร้อารมณ์ไร้ความรู้สึก และพูดขึ้นว่า “ไม่เป็นไร! ในเมื่อหลีกเลี่ยงไม่ได้ งั้นก็ไม่ต้องไปคิดอย่างอื่นอีกแล้ว”
จากนั้นก็มุ่งหน้าไปยังใจกลางเมือง
เวลานี้ หลินหยุนได้ทำการหยุดการระงับรอยประทับเลือดทางจิตวิญญาณไปแล้ว
พลังสายเลือดอันแข็งแกร่งน่าเกรงขามได้ปะทุขึ้นในพริบตา ซึ่งทั้งหมดลอยวนเวียนอยู่เหนือศีรษะของหลินหยุน
วินาทีที่เห็นภาพเหตุการณ์นี้ เกือบทุกคนต่างก็อุทานขึ้น และรีบหลบหนีกันไปโดยเร็ว
“พระเจ้า! เขาคือหลินหยุน! ”
“ด้านบนศีรษะของเขานั้นคือสัญลักษณ์ของคำบัญชาชำระล้าง! ”
“คิดไม่ถึงว่าคนผู้นี้จะปรากฏตัวอยู่ที่นี่! ”
“เขาไม่กลัวตายจริง ๆ อย่างนั้นเหรอ? ”
“ไอ้หนุ่มคนนี้ช่างกล้าหาญเสียจริงเลย! ”
เวลานี้ ยอดฝีมือของแต่ละตระกูลที่รับทราบเรื่องราวภายใน ก็สัมผัสได้ถึงรอยประทับเลือดในทันที และก็ได้ทยอยกันออกมาโดยพลัน
เห็นหลินหยุนเดินอยู่คนเดียว บนถนนอย่างสงบเงียบ คนจำนวนมากต่างก็อดไม่ได้ที่จะแสดงท่าทางที่เหลือเชื่อออกมา
“ไอ้หนุ่มคนนี้ก็คือหลินหยุนผู้ที่สังหารผู้อาวุโสสองคนนั้น และยังลักพาตัวซ่านจ้านไปตอนกลางวันแสก ๆ อีกด้วยใช่ไหม? ”
“ยังมีอายุน้อยอยู่เลย? ”
“ลักษณะท่าทางแบบนี้ คงน่าจะมีอายุประมาณยี่สิบต้น ๆ ล่ะสิ? ”
“ลำพังแค่เด็กหนุ่มคนนี้คนเดียว สามารถสังหารผู้อาวุโสทั้งสองคนได้จริง ๆ เหรอ? ”
“มันช่างน่าเหลือเชื่อมากเลยจริง ๆ? ”
“ไอ้หนุ่มนี้ตกลงมีประวัติความเป็นมาอย่างไรกันแน่? ”
“หรือว่าจะมาจากเก้าสำนักใหญ่? ”
“ไม่ใช่! ”
“ได้ทำการตรวจสอบเรียบร้อยแล้ว! ”
“ไอ้หนุ่มนี้อยู่ดี ๆ ก็ผุดออกมา ไม่ได้มาจากเก้าสำนักใหญ่! ”
“ประมาณว่าไม่รู้ไปได้รับการถ่ายทอดพลังวิชาที่แข็งแกร่งมาจากไหน! ”
“ช่างกำเริบเสิบสานยิ่งนัก! ”
“สังหารผู้อาวุโสสองคนของสำนักสุริยันยังไม่พอ ยังกล้าที่จะหาเรื่องกับหลานชายสุดที่รักของเจ้าสำนักซ่านอีก ช่างไม่รู้จักความเป็นความตายเสียจริงเลย! ”
“ผู้ไม่รู้ย่อมไม่ผิด คงน่าจะพูดถึงไอ้เด็กหนุ่มคนนี้ล่ะสิ? ”
ทุกคนต่างก็ทยอยวิพากษณ์วิจารณ์กันไปต่าง ๆ นานา
และมีอีกบางคน ยังคิดอยู่ว่าจะลงมือจัดการกับหลินหยุนเลยดีหรือไม่
เพราะว่า คำบัญชาชำระล้างยังอยู่ด้านบนเหนือศีรษะของหลินหยุน
มีสัญลักษณ์ของคำบัญชาชำระล้าง เงินรางวัลตามจับของคำบัญชาชำระล้างนั้นก็ยังคงมีอยู่
แต่ว่าในเวลานั้นยังคงไม่มีใครเลือกที่จะลงมือ เพราะว่าหลินหยุนนั้นเป็นถึงผู้ที่สังหารผู้อาวุโสใหญ่ของสำนักสุริยันเลยทีเดียว
แม้ว่ายากที่จะเชื่อ แต่ผู้อาวุโสใหญ่ได้เสียชีวิตลงไปนั้นคือเรื่องจริงอย่างแน่นอน
แต่ คำพูดโบราณก็บอกอยู่แล้วว่า เงินทองทำให้จิตใจคนหวั่นไหวได้!
นั่นเป็นถึงคำบัญชาชำระล้างที่มีเสียงระฆังดังขึ้นหกครั้งเลย!
ถ้าหากได้รับมา นั่นคือน้ำชี่ทิพย์จำนวนหกพันหยดเลยทีเดียว!
ต่อให้สำหรับยอดฝีมือแดนยาทองแล้ว นี่ก็ถือเป็นจำนวนที่มากมายอย่างแน่นอน!
และเกรงว่าคนส่วนใหญ่ก็คงจะไม่สามารถมีทรัพยากรจำนวนมากขนาดนี้
ขณะที่หลินหยุนกำลังเดินอยู่กับซิงเฟยนั้น มีลมหายใจอันแข็งแกร่งได้พุ่งทะยานขึ้นฟ้า และพุ่งตรงเข้าใส่สองคนนี้
ไม่นาน ชายวัยกลางคนในชุดคลุมสีน้ำตาลคนหนึ่ง ก็ได้ปรากฏตัวขึ้นเบื้องหน้าของหลินหยุนและซิงเฟย
เห็นชายวัยกลางคนนั้นปรากฏตัวขึ้น ทุกคนต่างก็พากันเบิกตาโพลงทันที
“ดูเร็ว มีคนที่อดทนไม่ไหวได้เริ่มลงมือแล้ว! ”
“คนผู้นี้คือผู้ฝึกอิสระหลานเหอล่ะสิ! ”
“ถูกต้อง! ”
“นั่นคือหลานเหอ ซึ่งก็คือหนึ่งในยอดฝีมือผู้ฝึกอิสระเพียงไม่กี่คน! ”
“ได้ยินว่าหลานเหอกำลังเตรียมตัวที่จะกลั่นยาทอง! ”
“แต่เป็นเพราะเกี่ยวเนื่องกับทรัพยากร จึงทำให้ไม่สามารถสำเร็จได้เสียที! ”
“ดูเหมือนว่าการสังหารหลินหยุนนั้น จะเป็นโอกาสที่ดีมากเลยทีเดียว! ”
“หลานเหอผู้นี้ คือยอดฝีมืออันดับหนึ่งในระดับขั้นรองลงมากจากแดนยาทองแล้ว! ”
“ถูกต้อง! ที่จริงแล้วหลายปีก่อนหน้านี้เขาสามารถที่จะบรรลุขั้นแดนยาทองได้แล้ว! แต่เป็นเพราะเขาคือผู้ฝึกอิสระ ไม่มีสำนักให้การสนับสนุน ดังนั้นจึงไม่มีทรัพยากรที่เพียงพอ จึงไม่สามารถสำเร็จขั้นแดนยาทองได้! ”
“พวกนายทายกันดูสิว่า สองคนนี้ใครจะเป็นผู้ที่มีชีวิตรอดคนนั้น? ”
“ต้องเป็นหลานเหออย่างแน่นอน! ”
“หลินหยุนผู้นี้แม้ว่าจะมีการร่ำลือว่าเป็นคนที่สังหารผู้อาวุโสสองคนของสำนักสุริยัน แต่พวกเราก็ยังไม่เคยมีใครเห็นกับตาของตนเองมาก่อน ซึ่งจะไปรู้ได้อย่างไรว่าตกลงมันเป็นอย่างไรกันแน่? ”
“คงจะไม่ใช่เรื่องโกหกหรอกนะ? ”
“ได้ยินว่าหลินหยุนคนเดียวต่อสู้กับสามคน ถึงกับทำให้ทูตวิญญาณที่หนึ่งของวิหารผนึกวิญญาณ รวมถึงท่านเฒ่ายันต์ตกใจจนต้องเผ่นหนีอย่างหัวซุกหัวซุนเลย! ”
“เหอะเหอะ เรื่องนี้ยิ่งทำให้รู้สึกไม่น่าเชื่อเข้าไปใหญ่! ”
“ลำพังแค่เด็กหนุ่มอายุยี่สิบต้น ๆ คนเดียวต่อสู้กับสามคน และสามคนนั้นยังเป็นถึงยอดฝีมือแดนยาทองที่มีชื่อเสียงมานานแล้วอีกด้วย! ”
“และยังถูกเขาสังหารไปได้หนึ่งคน! ”
“พวกนายคิดว่า มันเป็นไปได้ไหมล่ะ? ”
“โลกคุนชางเคยปรากฏปีศาจร้ายแบบนี้มาก่อนหรือไม่? ”