จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ บทที่ 1183
หลังจากที่หลินหยุนและซิงเฟยได้นำตัวของซ่านจ้านออกไปจากเมืองสุริยันแล้ว
ข่าวของหลานชายตระกูลซ่านที่ถูกลักพาตัวไปตอนกลางวันแสก ๆ นั้น ก็ได้กระจายร่ำลือกันไปทั่วทั้งเมืองสุริยันแล้ว
ขณะนั้น เมืองสุริยันก็ตื่นตะลึงกันทั้งหมด!
ตระกูลซ่าน
พวกเด็กวัยรุ่นของแต่ละตระกูลในเมืองสุริยัน ที่ได้เห็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมดก่อนหน้านี้นั้น ได้ถูกเชิญมากันทั้งหมดแล้ว
เวลานี้ ในห้องประชุมของตระกูลซ่าน
ชายวัยกลางคนของตระกูลซ่านหลายคนนั้นต่างก็มีสีหน้าที่หม่นหมองกันไปหมดแล้ว
ในขณะที่กำลังฟังต่งหยู่เล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมด
“คุณลุงซ่าน เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมดก็เป็นเช่นนี้! ”
“ฉันได้เห็นกับตาของฉันเองทั้งหมด ไม่มีความเท็จเลยแม้แต่น้อย! ”
ซ่านหงผู้นำตระกูลซ่าน มีสีหน้าท่าทางที่หม่นหมองอย่างที่สุด
สายตาที่เย็นชาได้จ้องมองมายังต่งหยู่และคนอื่น ๆ เหล่านั้น
พร้อมกับพูดเสียงแข็งขึ้นว่า “พวกนายไม่รู้จักผู้ชายและผู้หญิงทั้งสองคนนั้นเหรอ? ”
ตงหยู่รีบพูดขึ้นว่า “คุณลุงซ่าน พวกเราไม่รู้จักจริง ๆ ไม่เคยพบเจอมาก่อน! ไม่ใช่คนในเมืองสุริยันของพวกเราอย่างแน่นอน! ไม่อย่างนั้นเป็นไปไม่ได้เลยที่พวกเราจะไม่รู้จัก! ”
“โดยเฉพะอย่างยิ่ง วิชาการบำเพ็ญของพวกเขาทั้งสองคนนั้นแข็งแกร่งทรงพลังเป็นอย่างมาก! ”
“แม้แต่……แม้แต่……”
ซ่านหงดวงตาเป็นประกายและพูดขึ้นว่า “แม้แต่อะไร? ”
ต่งหยู่สูดหายใจลึกและพูดว่า “แม้แต่คุณชายจ้านเมื่ออยู่ต่อหน้าของเด็กหนุ่มคนนั้น ก็ยังไม่สามารถที่จะตอบโต้กลับได้เลยแม้แต่น้อย พริบตาเดียวก็ถูกปราบจนอยู่หมัดแล้ว! ”
ซ่านหงพูดขึ้นด้วยสีหน้าที่ย่ำแย่ “เท่านี้แล้วกัน พวกนายกลับไปก่อนเถอะ! ฉันรับทราบเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมดแล้ว! ”
หลายคนได้ยินดังนั้น ก็รีบเดินกันออกไปอย่างเงียบ ๆ
“เจ้าบ้าน ดูเหมือนว่าเรื่องนี้จะไม่ธรรมดาแล้ว! ฉันคิดว่าจำเป็นที่จะแจ้งให้คุณพ่อรับทราบ! ”
ชายวัยกลางคนผู้หนึ่งรีบลุกยืนขึ้นแล้วมองไปยังซ่านหงพร้อมกับพูดขึ้น
ซ่านหงพยักหน้าอย่างจริงจังและพูดขึ้นว่า “ตอนนี้ก็คงต้องทำอย่างนี้แล้ว! ไปบอกให้พวกต่งหยู่วาดภาพเหมือนของใบหน้าของชายและหญิงสองคนนั้นออกมา จากนั้นก็ประกาศให้รางวัลนำจับทั้งสองคนนี้! ”
“ฮึ! กล้าที่จะลงมือทำร้ายลูกชายของซ่านหง! ”
“ไม่ว่าจะเป็นใครหน้าไหน ฉันจะต้องให้เขาชดใช้ด้วยเลือดอย่างสาสม! ”
ไม่นาน ซ่านหงก็เดินทางมาถึงสำนักสุริยัน
ภายในตำหนักที่ยิ่งใหญ่ หลังจากที่ซ่านหงถูกนำตัวเข้ามา ก็ไม่พูดไม่จาอะไร ได้แต่ยืนก้มศีรษะลงอย่างเคารพ
ผ่านไปชั่วครู่ ผู้อาวุโสที่รูปร่างผอมบาง ผมและเคราขาวโพลนคนหนึ่งค่อย ๆ เดินเข้ามาด้านใน
เมื่อเห็นผู้อาวุโสแล้ว ซ่านหงก็รีบเข้าไปต้อนรับด้วยความเคารพ!
“ท่านพ่อ! เกิดเรื่องขึ้นแล้ว เกิดเรื่องใหญ่ขึ้นแล้ว! ”
ซ่านเต้าสีหน้าท่าทางสงบนิ่ง ดูแล้วน่าจะมีอายุหกสิบกว่าปี มีชีวิตชีวากระฉับกระเฉง แต่เวลานี้สีหน้าค่อนข้างย่ำแย่
ได้ยินดังนั้นก็อดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้วและถามขึ้นว่า “ตื่นตระหนกอย่างกับอะไร? นายคือผู้นำของตระกูล! นี่คือสิ่งที่ฉันเคยสั่งสอนนายอย่างนั้นเหรอ? ”
ซ่านหงรีบพูดขึ้นว่า “ท่านพ่อ เกิดเรื่องใหญ่ขึ้นแล้วจริง ๆ! ซ่านจ้านถูกคนลักพาตัวไปแล้ว ตอนนี้ไม่ทราบสถานการณ์ที่ชัดเจน พวกเราจะต้องรีบตามหาตัวของซ่านจ้านให้พบโดยเร็วที่สุด! ”
“อะไรนะ? ” ซ่านเต้าได้ยินดังนั้น สีหน้าก็เปลี่ยนไปทันที
เขาเพิ่งจะประกาศคำบัญชาชำระล้างออกไป แต่เหมือนว่ารอยประทับติดตามของคำบัญชาชำระล้างนั้น จะสูญสิ้นประสิทธิภาพลงไปหมดแล้ว
นี่คือเรื่องที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนเลย
เขากำลังตรวจสอบหาเหตุผลว่าเป็นเพราะอะไร ซ่านหงก็มาถึงแล้ว
แต่กลับนำเรื่องราวแบบนี้มาแจ้งให้กับเขาทราบ
พลังที่แข็งแกร่งในร่างกายของซ่านเต้าได้ปะทุขึ้นโดยพลัน
แม้แต่ซ่านหงเองก็ถึงกลับกระเด็นถอยหลังไปสิบกว่าเมตร
“บอกมา! ตกลงเกิดเรื่องอะไรกันแน่? ”
“ใครมีความกล้าหาญมากถึงขนาดนี้ ถึงได้กล้าลงมือกับหลานชายของซ่านเต้า! ”
ซ่านหงรีบพูดขึ้นว่า “ท่านพ่อ คือวัยรุ่นชายหญิงคู่หนึ่ง ลักพาตัวไปขณะอยู่ที่หอสุริยัน! ซึ่งชายหญิงสองคนนั้นไม่ใช่คนของเมืองสุริยัน! ”
“นายพูดอะไรนะ? หลานชายของฉัน ถูกคนลักพาตัวไปขณะอยู่ที่หอสุริยัน ในตอนกลางวันแสก ๆ? ”
“น่าขัน! นี่ช่างเป็นเรื่องที่น่าขันสิ้นดี! ”
“ป้ายวิญญาณยังอยู่ไหม? ”
ซ่านเต้าโมโหอย่างมาก
ซ่านหงตกใจจนตัวสั่นไปหมด และรีบพูดขึ้นว่า “มีอยู่! ป้ายวิญญาณยังมีอยู่ อีกทั้ง ฉันยังได้ให้พวกเขาวาดภาพเหมือนของชายหญิงคู่นั้นออกมาแล้วด้วย! ”
ขณะที่พูด ก็รีบนำภาพเหมือนออกมา
ขณะที่เห็นภาพเหมือนสองภาพนั้นแล้ว ซ่านเต้าก็มีสีหน้าที่เปลี่ยนไปอย่างมากในทันที
เพราะว่าชายหนุ่มในภาพนั้น คิดไม่ถึงว่าจะเหมือนกับหลินหยุนที่ปรากฏขึ้น หลังจากที่เขาได้ประกาศคำบัญชาชำระล้างเลย!
“หลินหยุน! เขาคือหลินหยุน! ”
ซ่านหงได้ยินดังนั้น แววตาทั้งสองข้างก็เผยท่าทีที่ตื่นตะลึงอย่างมากขึ้นโดยพลัน
“ท่านพ่อ ท่านพูดว่าอะไรนะ? ”
“คนผู้นี้ คนผู้นี้ก็คือหลินหยุน? ”
“ไอ้หนุ่มหลินหยุนที่สังหารผู้อาวุโสสองคนของพวกเราอย่างนั้นเหรอ? ”
ซ่านเต้าสีหน้าหม่นหมองอย่างที่สุด และพูดเสียงแข็งขึ้นว่า “ไม่ใช่เขาแล้วจะเป็นใครไปได้ล่ะ! คิดไม่ถึงจริง ๆ ว่า เขาลงมือสังหารผู้อาวุโสสองคนของสำนักสุริยันแล้ว ยังจะกล้าปรากฏตัวในเมืองสุริยันอีก! ”
“ไม่เพียงเท่านี้ ยังกล้าจะลงมือกับหลานชายของฉันอีก! ”
“รังแกเหยียดหยามกันมากเกินไปแล้ว! ”
ตูม!
ซ่านเต้าพลันกวัดแกว่งท่อนแขนออกไป เสาหินรับน้ำหนักที่แข็งแรงสามต้นได้พังทลายลงในพริบตา
กลายเป็นผุยผงไปทั้งหมด
“หลินหยุน! หากว่าฉันไม่สามารถสังหารนายด้วยมือของฉันเองแล้ว ขอสาบานว่าจะไม่ขอมีชีวิตอยู่อีกต่อไป! ”
……
ในขณะเดียวกัน ภายในป่าที่ห่างจากเมืองสุริยันไปทางใต้ประมาณห้าสิบกิโลเมตร
ซ่านจ้านก็ยังคงตัวสั่น และคุกเข่าอยู่ที่พื้นด้วยความหวาดกลัว
ส่วนซิงเฟยก็นั่งอยู่ตรงหน้าของเขา
“พูดมาสิ สถานการณ์ของสำนักสุริยันในตอนนี้เป็นอย่างไรบ้าง! ”
“ซ่านเต้านั้นคือคุณปู่ของนายใช่ไหม? ตอนนี้เขามีวิชาบำเพ็ญถึงระดับขั้นไหนแล้ว? ”
“นอกจากนี้ ฉิวหรงเจ้าสำนักใหญ่แห่งสำนักสุริยัน ได้ยินว่ากำลังเก็บตัวบำเพ็ญฝึกฝนอย่างหนัก เพื่อที่จะบรรลุขั้นแดนยาทองระดับหกนั้น เป็นความจริงหรือไม่? ”
“อย่าได้คิดว่าจะพูดโกหก! มิเช่นนั้นฉันจะทำให้นายตายทั้งเป็น! ”
ซ่านจ้านตัวสั่นขึ้นอีกครั้ง มองไปที่ซิงเฟยด้วยแววตาที่หวาดกลัว และพูดซ้ำแล้วซ้ำอีกว่า “ไม่กล้า ไม่กล้า ฉันจะพูดทั้งหมดเลย! ”
ซ่านจ้านกลืนน้ำลายอย่างหนัก และรีบพูดขึ้นว่า “ตอนนี้ปู่ของฉันยังคงมีวิชาบำเพ็ญขั้นแดนยาทองระดับห้า! ยังไม่บรรลุข้ามขั้น! ส่วนฉิวหรงเจ้าสำนักใหญ่นั้น กำลังเก็บตัวบำเพ็ญฝึกฝนอย่างหนัก! ”
“เพียงแต่ว่าหลายปีมานี้ ยังไม่มีความเคลื่อนไหวอะไรเลย! ”
“ป้ายวิญญาณของเจ้าสำนักใหญ่ฉิวหรงยังคงมีอยู่ นั่นแสดงว่ายังคงมีชีวิตอยู่! ”
“สำหรับที่ว่าจะบำเพ็ญฝึกฝนสำเร็จได้เมื่อไหร่นั้น เรื่องนี้ไม่มีใครทราบได้! ”
“ท่านทั้งสอง ฉันแสดงความขอโทษกับเรื่องที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ ท่านทั้งสองโปรดอย่าฆ่าฉันเลย! ”
“ขอร้องพวกท่านเถอะ ได้โปรดอย่าฆ่าฉันเลย! ”
ขณะที่พูดนั้นก็ได้ร้องไห้และคุกเข่าคำนับต่อซิงเฟยกับหลินหยุนอย่างไม่หยุด
ซิงเฟยส่งเสียงฮึอย่างเย็นชา และพูดขึ้นว่า “รู้ไหมว่าพวกเราคือใคร? รู้ไหมว่าทำไมวันนี้ต้องจับตัวนายมาด้วย? ”
ซ่านจ้านร้องไห้ เพราะเขาไม่รู้จริง ๆ!
ถ้าหากรู้ว่าพวกคุณทั้งสองนั้นเก่งกาจมากขนาดนี้ แม้แต่คุณชายตระกูลซ่านที่โด่งดังอย่างฉันยังกล้าจะลักพาตัว ไม่ว่าอย่างไรฉันก็คงไม่กล้าที่จะรนหาที่ตายต่อหน้าพวกคุณเป็นแน่!
ซิงเฟยเล่นสนุกจนเบื่อแล้ว ไม่อยากที่จะเล่นสนุกอีกต่อไปแล้ว เพราะเล่นกับไอ้หนุ่มนี้แล้วไม่เห็นจะมีความสนุกสนานเลย
ยังไม่ทันไรก็ตกใจจนปัสสาวะราดแล้ว!
ซิงเฟยนำกระดาษแผ่นหนึ่งออกมา แล้วบอกกับซ่านจ้านว่า “นี่คือจดหมายฉบับหนึ่ง พวกเราต้องการให้นายนำกลับไป! ส่งมอบให้กับซ่านเต้าคุณปู่ของนาย! ”
“ถ้าหากเขาตกลง อย่างนั้นจากนี้ต่อไปพวกเราต่างก็จะไม่ล้ำเส้นยุ่งเกี่ยวซึ่งกันและกันอีก! ”
“ถ้าหากไม่ตกลงล่ะก็ คงจะมีอะไรให้เล่นสนุกกันอีกแน่! ”
“พอได้แล้ว เอาจดหมายไป แล้วนายก็ไสหัวไปได้แล้ว! ”
ซ่านจ้านยื่นมือออกมารับอย่างระมัดระวัง และพูดขึ้นอย่างเหลือเชื่อว่า “ฉัน ฉันสามารถไปได้แล้วอย่างนั้นเหรอ? พวกคุณ……พวกคุณแน่ใจว่าจะไม่ฆ่าฉัน? ”
ซิงเฟยพูดอย่างเย็นชาว่า “ถ้าหากนายไม่อยากที่จะไสหัวไป ตอนนี้ฉันก็จะลงมือฆ่านายทิ้งซะ! ”
ซ่านจ้านตัวสั่นขึ้นอีกครั้ง และรีบพูดขึ้นว่า “อย่าเลย! ฉันไป! ฉันจะไปเดี๋ยวนี้! ”
พูดจบก็ลุกขึ้นวิ่งหนี โดยวิ่งหนีไปพลางและหันหลังกลับมามองหลินหยุนและซิงเฟยไปพลางด้วย