จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ บทที่ 1182
เขาขมวดคิ้วทั้งสองข้าง และพูดเสียงแข็งขึ้นว่า “คิดไม่ถึงจริง ๆ ฉันเองนั้นประเมินนายต่ำเกินไป! ”
“อายุขนาดนายนี้ สามารถมีพลังการบำเพ็ญที่แข็งแกร่งระดับนี้ คงน่าจะมีประวัติความเป็นมาอยู่พอสมควร! ”
“แต่ว่า ตอนนี้นายทำร้ายเพื่อนของฉันจนได้รับบาดเจ็บ ฉันจะทำเป็นไม่สนใจไม่ได้แล้ว! ”
หลินหยุนพูดขึ้นอย่างเย็นชาว่า “พูดไร้สาระ! ”
ได้ยินที่หลินหยุนพูด พวกเด็กวัยรุ่นที่อยู่ด้านหลังของซ่านเต้า ก็โมโหมากจนถึงกับหัวเราะเยาะออกมา
หญิงสาวคนหนึ่งพูดเยาะเย้ยขึ้นว่า “ช่างหยิ่งผยองยิ่งนัก! ดูเหมือนจะอยากตายเสียจริง! ”
เด็กหนุ่มอีกคนก็พูดต่อขึ้นว่า “ฉันว่าเป็นคนที่ไม่รู้จักความเป็นความตาย! ซึ่งทั้งเมืองสุริยันนี้ยังไม่เคยมีใครกล้าที่จะพูดแบบนี้กับคุณชายจ้านมาก่อนเลย! ”
“ไม่รู้ว่าไอ้หนุ่มคนนี้มันผุดออกมาจากที่ไหนกัน! ”
“ไอ้หนุ่ม นายรีบคุกเข่าร้องขอชีวิตเดี๋ยวนี้ บางทีคุณชายจ้านอาจจะไว้ชีวิตนายก็เป็นได้! ”
“หากว่าสายเกินไป ชีวิตของนายก็คงจะไม่เหลือแล้ว! ”
ทุกคนต่างมองไปยังหลินหยุนด้วยสายตาที่โกรธแค้น
หลินหยุนค่อย ๆ ลุกยืนขึ้น แล้วก็กวาดสายตามองไปยังทุกคน
พร้อมกับพูดขึ้นว่า “รีบไปให้พ้นจากสายตาของฉันเดี๋ยวนี้ ฉันก็จะไม่คิดเล็กคิดน้อยกับนาย! หากว่ายังไม่ไสหัวไปอีก ก็อย่าได้โทษว่าฉันไม่เกรงใจ! ”
ได้ยินหลินหยุนพูดเช่นนี้ ต่งหยู่ที่เพิ่งกระเด็นออกไปไกลนั้นก็หัวเราะเยาะเย้ยขึ้นอย่างบ้าคลั่ง
“ฮ่าฮ่าฮ่า! ไอ้หนุ่มพูดอะไรนะ? เขาอยากที่จะให้พวกเราไสหัวไป? ”
“ฉันไม่ได้ฟังผิดไปหรอกนะ? ”
“ฉันไม่รู้จริง ๆ ว่า ในเมืองสุริยันนี้ยังมีผู้ใดกล้าที่จะขับไล่พวกเราไปได้! ”
“นี่มันช่างเป็นเรื่องตลกขบขันที่สุดเท่าที่ฉันเคยได้ยินมาเลย! ”
“คุณชายจ้าน! ท่านพูดมาเลยว่า จะให้จัดการไอ้หนุ่มที่ไม่รู้จักความเป็นความตายผู้นี้อย่างไร! ”
ซ่านจ้านยิ้มเยาะ มองไปที่หลินหยุนและพูดว่า “ในเมื่อนายรนหาที่ตาย อย่างนั้นก็โทษฉันไม่ได้! ”
เมื่อพูดจบ พลังที่แข็งแกร่งของแดนฝึกพลังระยะหลังภายในร่างกายก็ได้ปะทุขึ้นทันที
ผู้ที่มีวิชาบำเพ็ญแดนฝึกพลังระยะกลางที่อยู่ด้านหลังได้ถูกพลังอันแข็งแกร่งของเขาบีบบังคับจนทำให้ต้องถอยหลัง
ทุกคนต่างก็ตกตะลึงขึ้นโดยพลัน
“พระเจ้า ช่างทรงพลังอย่างมาก! ”
“พลังบำเพ็ญของคุณชายจ้านได้พัฒนาขึ้นไปอีกไม่น้อยเลยทีเดียว! ”
“ฉันว่าอีกไม่เกินสองปี คงสามารถที่จะทะลุไปถึงขั้นแดนยาทองได้แล้ว! ”
“ด้วยพรสวรรค์ของคุณชายจ้าน บวกกับทรัพยากรจำนวนมากในสำนักสุริยัน เมื่อก้าวเข้าสู่แดนยาทองแล้ว ต่อไปในอนาคตคงจะเก่งกล้าสามารถอย่างไม่มีที่สิ้นสุดแล้ว! ”
“ฮึ ไอ้หนุ่มคนนี้ที่ไม่รู้ผุดออกมาจากที่ไหน กล้าที่จะมายุแหย่ให้คุณชายจ้านโกรธเคือง ช่างรนหาที่ตายเสียจริง! ”
“หากคุณชายจ้านลงมือจัดการตอนนี้ ไอ้หนุ่มนั่นคงจะต้องตายอย่างแน่นอน! ”
ใบหน้าของทุกคนต่างก็แสดงออกความเยาะเย้ย
ซ่านจ้านมองไปยังหลินหยุน ส่งเสียงฮึและพูดว่า “ไอ้หนุ่ม ฉันจะพูดอีกรอบนะว่า หากตอนนี้นายคุกเข่าร้องขอชีวิต ฉันยังจะไว้ชีวิตนายได้! ”
“นี่คือโอกาสครั้งสุดท้ายของนายแล้ว! ”
หลินหยุนพูดขึ้นอย่างเย็นชาว่า “ในเมื่อนายไม่ยอมไสหัวไป อย่างนั้นฉันก็จะขับไล่นายไปเอง! ”
ขณะที่พูด
หลินหยุนก็ยื่นมาออกมาจับ
พลังที่มองไม่เห็นก็ได้ปะทุขึ้น แปลงกายเป็นมือขนาดใหญ่ แล้วจับไปที่ร่างของซ่านจ้าน
ภาพเหตุการณ์นี้ทำให้ทุกคนถึงกับตกตะลึงเป็นอย่างมาก!
ซ่านจ้านเองก็คิดไม่ถึงอย่างมากว่าจะเกิดผลเช่นนี้
เขาขับเคลื่อนพลังบำเพ็ญอย่างหนัก ต้องการที่จะสลัดตัวให้หลุดพ้นจากฝ่ามือขนาดใหญ่ที่มองไม่เห็นนี้ แต่ไม่ว่าจะดิ้นรนแค่ไหน ก็ไม่เกิดประโยชน์
หลินหยุนจับตัวซ่านจ้าน แล้วก็หันมองไปที่ซิงเฟยและพูดว่า “พอได้แล้ว พวกเราไปกันเถอะ! ”
ซิงเฟยได้ยินดังนั้นก็พยักหน้าอย่างเชื่อฟัง
เห็นทั้งสองคนกำลังที่จะจับตัวซ่านจ้านไป ต่งหยู่กับพวกเพื่อนวัยรุ่นเหล่านั้น ก็ได้ไปยืนขัดขวางสองคนเอาไว้
ต่งหยู่ตวาดเสียงแข็งใส่ว่า “พวกนายคิดจะทำอะไร? กล้าที่จะลักพาตัวคุณชายจ้านไปอย่างนั้นเหรอ? ”
ชายหนุ่มอีกคนหนึ่งก็รีบพูดขึ้นด้วยสีหน้าที่หม่นหมองว่า “ไอ้หนุ่ม รีบปล่อยตัวคุณชายจ้านเดี๋ยวนี้ มิเช่นนั้น ไม่เพียงแค่นาย แม้แต่ตระกูลของนายเองก็จะต้องประสบกับความพินาศด้วยเช่นกัน! ”
“อย่าคิดเพียงแค่ว่าเป็นการข่มขู่นายเท่านั้น! ”
“คุณชายจ้านคือหลานชายของเจ้าสำนักรองแห่งสำนักสุริยัน! ”
“นายไม่สามารถรองรับผลลัพธ์ที่ตามมาได้อย่างแน่นอน! ”
หลินหยุนรำคาญที่จะพูดไร้สาระกับพวกคนเหล่านี้แล้ว จึงได้กวัดแกว่งมืออีกข้างหนึ่งขึ้น ทำให้คนพวกนั้นกระเด็นลอยออกไปไกล
จากนั้นก็จับตัวของซ่านจ้านแล้วก็กระโดดลอยขึ้นกลางอากาศ หายตัวแวบไปกับที่
ซิงเฟยเห็นเหตุการณ์ดังกล่าวก็ได้ยิ้มเยาะขึ้น มองไปยังคนพวกนั้นที่ทยอยล้มลงไปที่พื้น และพูดขึ้นอย่างเหยียดหยามว่า “ลำพังแค่ไอ้พวกกระจอกอย่างพวกนายเหล่านี้ ยังกล้าที่จะจ้องมองความสวยงามของฉันอย่างตาเป็นมัน พวกนายต่างหากที่ไม่รู้จักความเป็นความตาย! ”
พูดจบ ก็หายตัววับไปกับที่เช่นกัน
กลางป่าที่ห่างจากเมืองสุริยันไปทางใต้ประมาณห้าสิบกิโลเมตร
หลินหยุนวางตัวของซ่านจ้านลง และไม่นาน ซิงเฟยก็ตามมาถึง
เห็นว่าแม้แต่ซิงเฟยก็มีวิชาบำเพ็ญที่แข็งแกร่งขนาดนี้ ซ่านจ้านก็ตกตะลึงจนถึงกับเบิกตาโพลง เหลือเชื่อเป็นอย่างมาก
มองไปยังหลินหยุนและซิงเฟยด้วยสายตาที่ตื่นตกใจ และพูดขึ้นอย่างหวาดกลัวว่า “ตกลงพวกนายเป็นใครกันแน่? ทำไมจะต้องจับตัวฉันด้วย? ”
เขาเป็นหลายชายของซ่านเต้า
ก็นับว่าเป็นผู้อัจฉริยะมีพรสวรรค์ที่หาได้ยาก!
ตั้งแต่เล็กจนโต ใช้ชีวิตอย่างราบรื่นมาโดยตลอด มีสำนักสุริยันที่ยิ่งใหญ่อยู่เบื้องหลังเป็นผู้สนับสนุน โดยที่ไม่เคยประสบกับสถานการณ์แบบนี้มาก่อน
ที่ย่ำแย่ที่สุดก็คือ ฝ่ายตรงข้ามรู้ถึงสถานะของเขาเป็นอย่างดี แต่กลับกล้าที่จะลงมือจัดการเขา เรื่องนี้มันจึงยิ่งหนักหนากว่าอย่างเห็นได้ชัด!
มีความเป็นไปได้อยู่สามประการ!
ประการที่หนึ่ง พวกเขาไม่เห็นตระกูลซ่าน และรวมไปถึงสำนักสุริยันอยู่ในสายตา!
ประการที่สอง ทั้งสองคนนี้เป็นพวกที่กล้าบ้าบิ่นอย่างไม่คำนึงถึงชีวิต!
ประการที่สาม มีวัตถุประสงค์ที่ห้ามให้ผู้อื่นรับรู้
ซิงเฟยมองไปที่หลินหยุน ส่ายมือไปมาและพูดว่า “เรื่องแบบนี้นายคงจะไม่ค่อยถนัด นำตัวเขามาให้ฉันดีกว่า! ”
หลินหยุนเคลื่อนไหวสายตาเล็กน้อย โดยที่ไม่ได้พูดอะไร แล้วก็โยนตัวซ่านจ้านออกไป
เมื่อหลุดพ้นออกจากการควบคุมด้วยมือขนาดใหญ่ที่มองไม่เห็นแล้ว ซ่านจ้านก็ได้เผาใหม้สารจิงและเลือดอย่างบ้าคลั่ง เพื่อต้องการที่จะหลบหนีออกไปโดยเร็วที่สุด
แต่ยังไม่ทันรอให้เขากระโดดขึ้นไปกลางอากาศ ก็ถูกซิยเฟยตบอย่างรุนแรงอีกครั้ง
แม้ว่าทั้งสองคนจะอยู่ในแดนฝึกพลังระยะหลังเหมือนกัน
แต่ซิงเฟยมีพลังความสามารถที่แข็งแกร่งกว่าซ่านจ้านเป็นอย่างมาก
เพราะว่าเธอมีพลังความสามารถที่แท้จริง อีกเพียงแค่ก้าวเดียวก็จะเข้าสู่ขั้นแดนยาทองแล้ว
เมื่อเปรียบเทียบกับเธอแล้ว ซ่านจ้านยังห่างไกลอยู่อีกมาก
มองไปยังซ่านจ้านที่กระแทกล้มลงกับพื้นอย่างแรง พร้อมกับกระอักเลือดอย่างหนักนั้น ซิงเฟยก็หัวเราะเยาะ และพับแขนเสื้อขึ้นแล้วก็เดินเข้าไปหา
“ดูสภาพของนายสิ เมื่อมาอยู่ในมือของฉันแล้ว ยังกล้าคิดที่จะหลบหนีอีก! ”
“ฉันว่านายคิดอะไรที่เกินกำลังไปแล้วจริง ๆ! ”
“นี่! อย่ามาทำเป็นแกล้งตาย ฉันจะถามปัญหานายอะไรบางอย่าง! ”
“ยอมตอบมาดี ๆ ฉันก็จะไว้ชีวิตของนาย! ”
“หากไม่ยอมตอบ สถานที่แห่งนี้ ก็จะเป็นบ้านของนายตลอดไปในอนาคต! ”
ซ่านจ้านหวาดกลัวเป็นอย่างมาก
เห็นอยู่ว่าหลินหยุนกับซิงเฟยมีความแข็งแกร่งมากขนาดนี้ แต่ก็ยังตวาดใส่อย่างโหดเหี้ยม “ฉันขอเตือนพวกนายเอาไว้! ปู่ของฉันคือซ่านเต้า เจ้าสำนักรองของสำนักสุริยัน! ”
“ถ้าหากพวกนายกล้าลงมือฆ่าฉันจริง ๆ! ”
“ปู่ของฉันไม่มีทางที่จะปล่อยพวกนายเอาไว้อย่างเด็ดขาด! ”
“ต่อให้พวกนายจะหลบหนีไปไกลสุดขอบฟ้า ก็จะต้องตายอย่างแน่นอนอยู่ดี! ”
เปรี๊ยะ……
ซิงเฟยไม่พูดไม่จา ยกมือตบซ่านจ้านอย่างรุนแรงจนเขากระเด็นลอยไปไกล และฟันหลายซี่ก็ถูกตบจนหักหลุดออกมา
“ยังจะพูดไร้สาระอีกไหม? ”
“แก……”
ซิงเฟยปรบมือและพูดขึ้นว่า “หากไม่พูดไร้สาระก็ดีแล้ว! คนเลวอย่างนายตกมาอยู่ในมือของฉัน นั่นมันก็สมน้ำหน้าแล้วรู้ไหมล่ะ? ”
“คนที่ไม่ได้เรื่องได้ราวอย่างนายนี้ ยังคู่ควรที่จะมาจ้องมองความสวยงามของฉันอย่างตาเป็นมันอีกเหรอ? ”
“ไปลองส่องกระจกดูสภาพที่ไม่ได้เรื่องของนายตอนนี้สิ!