จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ บทที่ 1150
ครุ่นคิดเล็กน้อย
ดวงตาที่งดงามของหยุนหลานก็ได้เคลื่อนไหวไปมา และรีบนำขวดหยกออกมาเพิ่มอีกสองใบ โดยที่ได้นำยาข้ามอุปสรรคทั้งสามเม็ดนั้นแบ่งแยกบรรจุลงไปในแต่ละขวด
จากนั้นก็รีบวิ่งไปที่ตลาดทันที
เธอไม่ได้ไปที่หอไป่เต้า
เพราะว่ายาข้ามอุปสรรคนั้นหอไป่เต้าเป็นผู้คิดค้นขึ้น
ถ้าหากจำหน่ายที่หอไป่เต้าสักหนึ่งเม็ด ก็ถือว่ากำลังพอดี
แต่หากสามเม็ดก็มากเกินไปแล้ว!
ไม่พูดถึงว่าหอไป่เต้าจะทานหรือไม่ แต่คงจะเกิดความสงสัยขึ้นอย่างแน่นอน
ถ้าอย่างนั้นสถานะนักกลั่นยาของหลินหยุนอาจจะปกปิดเอาไว้ไม่อยู่แล้ว
โดยจะส่งผลกระทบอะไรบ้าง ก็ไม่อาจทราบได้
แต่คงจะสร้างปัญหาความวุ่นวายที่ไม่จำเป็นมาให้กับหลินหยุนอย่างแน่นอน
จากลักษณะนิสัยของหลินหยุนแล้ว เขาเองคงจะไม่พอใจ
คิดถึงตรงนี้ หยุนหลานจึงไปที่หอชุนยี่ก่อน
แล้วก็ไปที่หอมี่หยุน
ตลาดสองแห่งนี้ แม้ว่าจะมีภูมิหลังที่ไม่ดีเท่ากับหอไป่เต้า แต่ก็ยังถือว่ามีศักยภาพพอใช้ได้!
เมื่อหยุนหลานนำยาข้ามอุปสรรคออกมา ก็กลายเป็นที่ดึงดูดความสนใจอย่างมากขึ้นทันที
โอสถชนิดนี้ คือสิ่งล้ำค่าที่มีความต้องการสูงมากอย่างแน่นอน
หอชุนยี่ได้เสนอให้ที่ราคาน้ำชี่ทิพย์สามพันแปดร้อยหยด
หอมี่หยุนยิ่งใจกว้างมากกว่า ให้ที่ราคาสี่พันหยด
สุดท้ายก็มาถึงที่หอไป่เต้า ซึ่งราคานั้นก็ค่อนข้างต่ำเล็กน้อย โดยเสนอให้ที่ราคาน้ำชี่ทิพย์สามพัน
ห้าร้อยหยด
หยุนหลานก็ตกลงแล้ว
ยาข้ามอุปสรรคสามเม็ด ได้น้ำชี่ทิพย์มาหนึ่งหมื่นหนึ่งพันสามร้อยหยด
นี่ถือว่าเป็นตัวเลขที่มีมูลค่าสูงมากทีเดียว
ต่อให้พวกเธอตระกูลหยุน หากตอนนี้คิดจะนำน้ำชี่ทิพย์จำนวนมากขนาดนี้ออกมา ก็คงเป็นเรื่องยาก
เมื่อได้น้ำชี่ทิพย์แล้ว หยุนหลานก็รีบกลับไปยังโรงกลั่นยาทันที
และพูดกับหลินหยุนว่า “ยาข้ามอุปสรรคสามเม็ด ได้น้ำชี่ทิพย์มาหนึ่งหมื่นหนึ่งพันสามร้อยหยด ซึ่งฉันได้นำสามร้อยหยดที่นำไปซื้อสมุนไพรออกมาแล้ว ส่วนที่เหลือก็อยู่ตรงนี้ทั้งหมดแล้ว! ”
หลินหยุนเคลื่อนสายตาเล็กน้อย แล้วก็นำน้ำชี่ทิพย์หนึ่งหมื่นหนึ่งพันหยดแบ่งครึ่งออกเป็นสองส่วน
“ฉันพูดเอาไว้แล้วว่า พวกเราแบ่งกันคนละครึ่ง! ”
“ส่วนครึ่งนี้ เป็นของเธอ! ”
ได้ยินที่หลินหยุนพูดแล้ว แม้ว่าหยุนหลานจะเตรียมตัวเตรียมใจเอาไว้แล้ว แต่ก็ยังคงสูดหายใจลึก
ตกตะลึงกับความใจกว้างของหลินหยุนอย่างมาก
นี่คือน้ำชี่ทิพย์จำนวนห้าพันห้าร้อยหยดเลยทีเดียว!
ซึ่งไม่ใช่จำนวนที่น้อยเลย!
หยุนหลานรีบส่ายศีรษะและพูดว่า “ไม่ได้ ฉันไม่สามารถรับมันไว้ได้! ”
หลินหยุนก็ถามขึ้นอย่างแปลกใจว่า “ทำไมล่ะ? ”
หยุนหลานสูดหายใจลึก และพูดว่า “น้ำชี่ทิพย์เหล่านี้มันมากเกินไป! ”
“อีกอย่าง ฉันเองก็แค่ช่วยคุณไปซื้อสมุนไพรเล็กน้อยเท่านั้น ซึ่งไม่ได้ออกแรงช่วยอะไรเท่าไร! ”
“ข้อสาม ฉันถือว่าคุณเป็นผู้มีพระคุณที่ช่วยชีวิตฉัน และยังเป็นเพื่อนฉันด้วย แล้วฉันจะรับมันไว้ได้
อย่างไรล่ะ? ”
สมเหตุสมผล
เพราะคิดเอาไว้ล่วงหน้าแล้ว
หลินหยุนได้ยินดังนั้นก็พยักหน้า “งั้นก็ตกลง แต่อย่างไรก็ต้องรับเอาไว้บ้าง”
ขณะที่พูด ก็ได้แบ่งน้ำชี่ทิพย์สองพันหยดให้กับหยุนหลาน
คราวนี้หยุนหลานก็ไม่ได้ทำการปฏิเสธใด ๆ แล้วก็รับมันเอาไว้
หลินหยุนเองก็เก็บน้ำชี่ทิพย์จำนวนเก้าพันหยดขึ้น
หยุนหลานพูดขึ้นว่า “ตอนนี้ยังคงมีเวลาอยู่ พวกเราไปทานอะไรกันก่อน หลังจากนั้นก็ไปที่หอไป่เต้าเพื่อเข้าร่วมงานประมูล! ”
หลินหยุนครุ่นคิดชั่วครู่ แล้วก็พยักหน้าตกลง
ทั้งสองคนออกมาจากโรงกลั่นยา
หลังจากที่ไปทานอะไรกันเสร็จแล้ว ก็มุ่งหน้าไปที่หอไป่เต้า
คืนนี้ที่หอไป่เต้า คึกคักรื่นเริงเป็นพิเศษ
รถเมฆหรูหราทีละคันทีละคันขับมาจอดที่หน้าประตู
โดยมีคนลงมาจากรถและได้รับการต้อนรับเข้าสู่ภายในหอเป็นระยะ ๆ
หยุนหลานได้พาหลินหยุนมาถึงที่หน้าประตู
โดยที่ทั้งสองคนได้หยุดยืนอยู่ในระยะไกลออกไป
หลินหยุนถามขึ้นด้วยความแปลกใจว่า “ตระกูลหยุนของพวกเธอคงจะมีคนอื่นมาร่วมงานนี้ด้วยล่ะสิ? โดยตระกูลระดับตระกูลหยุนของพวกเธอ คงจะได้รับโควตาจำนวนคนเข้างานค่อนข้างเยอะใช่ไหม? ”
หยุนหลานพูดว่า “แต่ละตระกูลจะมีโควตาเข้าร่วมงานสามคน ในครั้งนี้พวกเราตระกูลหยุนไม่เข้า
ร่วมงานประมูล ดังนั้นโควตาผู้เข้างานจึงถูกฉันนำมาหมดแล้ว! ”
หลินหยุนพูดขึ้นอย่างไม่เข้าใจว่า “งานประมูลที่ยิ่งใหญ่ขนาดนี้ ตระกูลหยุนทำไมถึงไม่เข้าร่วมงานล่ะ? ”
หยุนหลานได้ยินดังนั้นก็ถึงกับเงียบลงเล็กน้อย และพูดขึ้นเบา ๆ ว่า “ตระกูลหยุนมีอุปสรรคปัญหา
อยู่บ้าง ถึงอย่างไรก็ไม่สามารถเข้าร่วมงานได้! ”
หลินหยุนพยักหน้า โดยที่ไม่ถามต่อไปอีก
ทั้งสองคนเดินตรงไปที่หน้าประตู
ยื่นบัตรเชิญ แล้วทั้งสองคนก็เดินเข้าไปด้านใน
สถานที่จัดงานประมูลมีขนาดใหญ่และกว้างขวางอย่างมาก
แบ่งออกเป็นสองชั้นโดยมีชั้นบนและชั้นล่าง
และยังมีห้องเดี่ยวส่วนตัวด้วย
เตรียมไว้ใช้สำหรับรองรับพวกแขกผู้มีเกียรติระดับสูง
หลินหยุนกับหยุนหลานถือบัตรเชิญธรรมดา ซึ่งไม่สามารถที่จะเข้าไปในห้องเดี่ยวส่วนตัวได้
ดังนั้นจึงหาที่นั่งในมุมหนึ่งของห้องโถงแล้วก็นั่งลง
ไม่นานก็มีคนพบเห็นว่าเขามาร่วมงาน
จึงได้มีการวิพากษ์วิจารณ์เบา ๆ กันขึ้น
ตอนนี้ ทั่วทั้งเมืองมี่หยุน หากจะพูดว่าชื่อของใครที่ถูกกล่าวขานกันมากที่สุดนั้น ก็คงจะคือหลินหยุนอย่างแน่นอนแล้ว
“ไอ้หนุ่มนี้ทำไมถึงได้มาร่วมงานประมูลด้วย? ”
“ดูเหมือนว่า จะมาด้วยกันกับคุณหนูตระกูลหยุน? ”
“ไอ้หนุ่มนี้เพิ่งจะออกมาจากตระกูลฉิน ก็ไปผูกมิตรกับคุณหนูของตระกูลหยุนแล้ว? ”
“ช่างเยี่ยมยอดเสียจริง! ”
“จะเป็นอะไรไป ไอ้หนุ่มนี้มีวิชาบำเพ็ญที่แข็งแกร่ง หากว่าไปที่ตระกูลของนาย นายจะไม่เต็มใจ
ยอมรับเหรอ? ”
“ฉันไม่เต็มใจเด็ดขาด! ”
“ท่านจินหลบหนีไปแล้ว เมื่อหากคำนวณตามเวลาแล้ว คนของวิหารผนึกวิญญาณเกรงว่าอีกไม่นานก็คงจะมาถึง ไอ้หนุ่มนี้คงต้องพบกับความโชคร้ายอย่างแน่นอน! ”
“ใครว่าไม่ใช่ล่ะ ไอ้หนุ่มนี้ก็ช่างโอ้อวดเสียจริง ยังจะกล้าอยู่ที่เมืองมี่หยุนโดยไม่หลบหนีไปอีก! ”
“เหอะเหอะ นี่ก็คือการที่ไม่รู้จักความเป็นความตายล่ะสิ! ”
“นี่คือความโง่เขลาต่างหาก! ”
“แม้แต่วิหารผนึกวิญญาณที่ยิ่งใหญ่ก็ยังไม่เห็นอยู่ในสายตา อีกไม่นานก็คงจะต้องตายลงอย่างน่าอเนจอนาถ! ”
แม้ว่าความโอ้อวดกำเริบเสิบสานของหลินหยุนนั้น จะทำให้ทุกคนต่างพากันเหยียดหยามเป็น
อย่างมาก แต่ก็ไม่มีใครกล้าออกมาหาเรื่องสร้างความวุ่นวาย
เพราะว่าหลินหยุนมีพลังความสามารถที่น่าเกรงกลัวอย่างที่สุด
ในขณะนี้เอง ก็มีคนเดินเข้ามา
ทุกคนล้วนหันไปมอง
ซึ่งก็คือฉู่เทียนกับฉินชิงถง
สองคนนี้ โดยเฉพาะฉู่เทียนแล้ว หลังจากที่สำนักสุริยันได้รับเข้าเป็นศิษย์สายในที่สำคัญแล้ว ก็มีสถานะที่สูงขึ้นอย่างรวดเร็ว จนไม่มีใครกล้ามองข้ามอีก
เวลานี้ได้พาฉินชิงถงมาด้วย ทั้งสองคนคือชายหล่อหญิงสวย เติมเต็มซึ่งกันและกัน เมื่อเดินเข้ามาก็ได้รับการชื่นชมจากผู้คนจำนวนไม่น้อย
เมื่อหลินหยุนเห็นสองคนนี้แล้วก็เก็บสายตากลับทันที
หยุนหลานที่อยู่ด้านข้างเห็นแล้วก็อดหัวเราะเหอะเหอะไม่ได้ และพูดขึ้นเบา ๆ ว่า “ทำไมเหรอ เห็นหญิงสาวที่เกือบจะกลายเป็นคู่ฝึกฝนของตนเอง อยู่ด้านข้างของผู้ชายอีกคนหนึ่ง จึงไม่มีความสุขแล้วล่ะสิ? ”
หลินหยุนมองไปที่หยุนหลาน และพูดขึ้นอย่างเหยียดหยามว่า “หล่อนคิดที่จะเป็นผู้หญิงของฉันน่ะเหรอ? ยังไม่คู่ควร! ”
หยุนหลานเหลือบตาขาวใส่
คนอะไรเนี่ยะ?
ช่างน่ารังเกียจเสียจริง!
และก็ไม่รู้ว่าคนผู้นี้ผุดออกมาจากที่ไหนกัน!
แต่ก็ต้องยอมรับว่า หลินหยุนนั้นแข็งแกร่งมากเหลือเกิน!
ที่สำคัญก็คือ แม้แต่ยาข้ามอุปสรรคยังสามารถกลั่นได้ และยังใช้มือกลั่นอีกด้วย!
หยุนหลานถึงขั้นเกิดความสงสัยขึ้นว่า เป็นไปได้ที่หลินหยุนจะมีความสัมพันธ์กับหอไป่เต้าอยู่บ้าง
แต่ก็ยังไม่แน่ใจ
เพราะว่าระดับชั้นของยาข้ามอุปสรรคที่หลินหยุนกลั่นขึ้นนั้น ดีกว่ายาข้ามอุปสรรคของหอไป่เต้าอย่างชัดเจน
หลังจากที่ฉู่เทียนกับฉินชิงถงได้ทำการทักทายกับผู้คนบ้างแล้ว ก็นั่งลงที่นั่งบริเวณแถวหน้าสุด
โดยทั้งสองคนได้กลายเป็นจุดสนใจของทุกคนไปแล้ว
แน่นอนว่า ก็ทำให้บางคนเกิดความไม่พอใจขึ้น โดยเฉพาะพวกนักพรตบางคนที่ไม่ได้อยู่ในเมือง
มี่หยุน
แต่ก็ไม่ได้มีการพูดจาอะไร
ในเวลานี้เอง ชายวัยกลางคนที่ไว้หนวดสองข้าง ก็ได้เดินเข้ามา
เห็นคนนี้แล้ว สายตาของทุกคนต่างก็จ้องมองกันไปทั้งหมด และตกตะลึงขึ้นอย่างที่สุด
เพราะว่าชายวัยกลางคนผู้นี้มีลมหายใจที่แข็งแกร่งดุดันเป็นอย่างมาก
“คนผู้นี้คือใคร? ”
“ช่างมีลมหายใจที่แข็งแกร่งดุดันมากขนาดนี้! ”
“ไม่ใช่คนในเมืองมี่หยุนของพวกเรา น่าจะเป็นคนที่มาจากต่างพื้นที่! ”
“ออกห่างเอาไว้สักหน่อยดีกว่า เพราะดูแล้วเหมือนจะไม่ค่อยเป็นมิตรสักเท่าไร!