จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ บทที่ 1145
ฉินเหมยสีหน้าเปลี่ยนไปทันที โดยที่ในจิตใจโมโหเป็นอย่างมาก
แต่เธอรู้ว่าตนเองมาที่นี่เพื่ออะไร
ดังนั้นต่อให้ในจิตใจจะโกรธแค้นเป็นฟืนเป็นไฟ แต่ก็ยังคงจะต้องแสดงท่าทางที่ยิ้มแย้มออกมา
“ท่านจินพูดล้อเล่นไปได้ ฉินเหมยผู้นี้แก่ชราไม่งดงาม จะไปสะดุดตาต้องใจท่านจินได้อย่างไร
กันล่ะ”
“ท่านจินอย่าได้นำเรื่องนี้มาพูดล้อเล่นกันเลย”
ท่านจินยิ้มชายตามองแล้วพูดขึ้นว่า “คุณหนูฉินถ่อมตัวเกินไปแล้ว ทั้งเมืองมี่หยุนนี้ หากว่าคุณหนูฉินมีความงดงามเป็นอันดับที่สอง อย่างนั้นก็คงไม่มีใครกล้าเป็นอันดับที่หนึ่งแล้ว! ”
“แน่นอนว่า ถ้าหากคุณหนูฉินสามารถที่จะนำลูกสาวมาพร้อมกันด้วยแล้ว คงจะยิ่งเป็นการดีมากขึ้นไปอีก! ”
“จะว่าไป ฉันเองก็ยังไม่เคยได้สัมผัสลิ้มลองกับรสชาติของสองแม่ลูกพร้อมกันแบบนี้มาก่อนเลยด้วย! ”
“ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า……”
แม้ว่าความอดทนอดกลั้นของฉินเหมยจะมีอยู่มากก็ตาม แต่สีหน้าก็เกิดความหม่นหมองลงไปแล้ว
ฉินเหมยสูดหายใจลึก พร้อมกับลุกยืนขึ้นโดยพลัน “ท่านจิน ถ้าพูดแบบนี้ก็หมายความว่าเรื่องนี้
ไม่มีทางที่จะเจรจาต่อรองกันได้เลย ใช่ไหม? ”
ท่านจินหัวเราะเหอะเหอะ “มีสิ! เมื่อครู่ฉันเพิ่งพูดไปแล้วไม่ใช่เหรอ? เพียงแค่คุณหนูฉินตกลง เรื่องที่เกิดขึ้นนั้นก็ถือว่าจบสิ้นกันไป! ”
ฉินเหมยสีหน้าหม่นหมองอย่างมาก กัดฟันและพูดขึ้นว่า “ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ฉันเองก็ไม่มีอะไรจะพูดอีกแล้ว! ขอตัวกลับก่อน! ”
ขณะที่พูด ก็ได้เก็บผลไม้หมินหลิงขึ้น หันหลังแล้วก็เดินจากไป
แต่ว่าในขณะนั้นเอง ท่านจินก็หัวเราะอย่างเย็นชา และพูดขึ้นว่า “คิดจะกลับออกไปอย่างนั้นเหรอ? ได้รับคำอนุญาตจากฉันแล้วหรือยัง? ”
เมื่อพูดจบ ลูกน้องสองคนก็พลันปรากฏตัวขึ้นที่ด้านหน้าของฉินเหมย
ฉินเหมยพลันหันหลังกลับไปพูดกับท่านจินว่า “ท่านจิน ท่านทำแบบนี้ เกรงว่าจะไม่เป็นการดี
สักเท่าไร? ”
ท่านจินหัวเราะเยาะ “มีอะไรที่ไม่ดีอย่างนั้นเหรอ? หรือว่าคุณหนูฉินกลัวว่าฉันจะปรนนิบัติคุณได้ไม่ดีพออย่างนั้นใช่ไหม? ”
“วางใจได้เลย เรื่องอย่างว่านั้น ฉันเองก็ถือว่าเยี่ยมยอดพอตัว! ”
ฉินเหมยจ้องมองมาที่เขา พร้อมกับพูดเสียงแข็งด้วยความโกรธว่า “หน้าด้านไร้ยางอาย! ”
“ฉันคิดไม่ถึงจริง ๆ ว่า แท้จริงแล้วท่านจินผู้มีอิทธิพลอำนาจยิ่งใหญ่แห่งเมืองมี่หยุน จะเป็นผู้ที่หมกมุ่นในกามารมณ์มากขนาดนี้ไปได้! ”
“ถุย! ”
ท่านจินพูดขึ้นอย่างเหยียดหยามว่า “ครั้งนี้ ไอ้หนุ่มหลินหยุนนั้นทำให้ฉันต้องอับอายขายหน้าอย่างมาก ตระกูลฉินของเธอจำเป็นต้องชดใช้อย่างสาสม! ”
“ฉันจะให้ทุกคนในเมืองมี่หยุนต่างได้เห็นได้ทราบกันทั้งหมด! ”
“ว่าชะตากรรมที่ล่วงเกินท่านจินนั้นเป็นอย่างไร! ”
……
โรงกลั่นยาตระกูลหยุน
หลังจากที่หลินหยุนได้ทำการจัดเก็บห้องพักเรียบร้อยแล้ว ก็นั่งขัดสมาธิลงบนเตียง ทำการบำเพ็ญฝึกฝนต่อ
ช่วงเช้าของวันรุ่งขึ้น
หลังจากที่เพิ่งบำเพ็ญฝึกฝนเสร็จ หยุนหลานก็รีบวิ่งเข้ามาหาอย่างรีบร้อน
เมื่อเห็นหลินหยุน หยุนหลานก็รีบพูดขึ้นว่า “หลินหยุน เกิดเรื่องใหญ่ขึ้นแล้ว! ”
หลินหยุนดวงตาเป็นประกายขึ้นแวบหนึ่ง “เกิดเรื่องอะไรขึ้นเหรอ? ”
หยุนหลานรีบพูดขึ้นว่า “เมื่อคืนแม่ของฉินชิงถงไปหาท่านจินที่วิลล่า เพื่อต้องการที่จะแก้ไขจัดการเรื่องที่ตึกจุ้ยซิง แต่โดนจับกุมตัวไว้ที่นั่นแล้ว! ”
หลินหยุนได้ยินดังนั้นสีหน้าก็เปลี่ยนไปทันที เจตนาสังหารอันอำมหิตก็ได้สำแดงออกมาโดยพลัน
“คฤหาสน์ของท่านจินอยู่ที่ไหน? ”
“คุณใจเย็นก่อน! ”
หยุนหลานรีบพูดขึ้นว่า “คุณไม่ได้กำลังคิดที่จะลุยเดี่ยวเข้าบุกถล่มวิลล่าจินใช่ไหม? ”
“ฉันบอกคุณไว้เลยว่า แบบนั้นมันอันตรายมาก คุณห้ามไปโดยเด็ดขาด! ”
“หยุดพูดไร้สาระได้แล้ว บอกฉันมาว่า คฤหาสน์ของท่านจินอยู่ที่ไหน! ”
หยุนหลานตกใจอย่างมาก แข้งขาอ่อน จนแทบจะทรุดตัวนั่งลงไปบนพื้น
กลืนน้ำลายอย่างฉับพลัน และมองไปที่หลินหยุนแล้วพูดขึ้นว่า “อยู่ที่ทางตะวันออกของเมือง! เป็นตึกอาคารขนาดใหญ่ มีชื่อว่าวิลล่าจิน! ”
เงาร่างของหลินหยุนเปล่งประกายแวบหนึ่ง แล้วก็หายวับไปกับที่ในพริบตา
หยุนหลานตาลายเล็กน้อย และก็รีบวิ่งออกไปด้านนอกในทันที
เมื่อหลินหยุนมาถึง ที่หน้าประตูของวิลล่าจินก็มีผู้คนมารวมตัวกันไม่น้อย
ด้านหน้าสุดคือคนของตระกูลฉิน
ส่วนคนอื่นนั้นส่วนมากหลินหยุนไม่รู้จัก น่าจะเป็นคนของตระกูลอื่น ๆ ในเมืองมี่หยุน
หลินหยุนเคลื่อนตัวมาในอากาศ พร้อมกับวาดลำแสงสีเขียวเส้นหนึ่งกลางอากาศ และก็เหาะลอยตัวลงมาบนพื้น
เมื่อหลินหยุนปรากฏตัวขึ้น ทุกคนต่างก็หันมองมาที่เขา
เมื่อคนของตระกูลฉินมองเห็นหลินหยุนแล้ว ก็มีคนพุ่งเข้ามาหาด้วยความโมโหอย่างฉับพลัน
ฉินชิงถงก็คือหนึ่งในจำนวนนั้น โดยจ้องมองหลินหยุนด้วยความโกรธแค้นอย่างมาก
“หลินหยุน! ”
“นายมันไอ้ตัวปัญหา ยังกล้าที่จะปรากฏตัวออกมาอีก! ”
“ถ้าหากไม่ใช่นาย แม่ของฉันจะถูกท่านจินจับกุมตัวไว้ได้อย่างไรกัน! ”
“ถ้าหากไม่ใช่นาย พวกเราตระกูลฉินจะประสบพบกับวิกฤตอันตรายเหล่านี้ไอย่างไรกัน? ”
“นายยังจะมีหน้ามาที่นี่อีก! ”
“นายคือผู้ที่ยึดความคิดเห็นของตนเป็นใหญ่ โอ้อวดหลงระเริง คือตัวปัญหาที่ไปที่ไหนก็จะนำภัยพิบัติมาให้กับบุคคลอื่น! ”
“นายไสหัวออกไป! ”
“ไสหัวไปเดี๋ยวนี้! ”
“อย่าให้ฉันได้พบเจอกับนายอีก! ”
เมื่อคืนวานนี้ แม้ว่าพวกเธอทั้งหลายจะไม่ได้ขับไล่หลินหยุนออกไป
แต่ต่อมาพวกเธอพบว่าหลินหยุนนั้นได้จากไปแล้ว
ตอนนั้นยังรู้สึกดีใจที่หลินหยุนได้ออกจากตระกูลฉินไปแล้ว
แต่ว่าไม่นานนักคุณแม่ก็มาที่วิลล่าจินตามลำพัง และก็ได้มีข่าวกระจายออกมาว่าเธอถูกท่านจินจับกุมตัวเอาไว้
ข่าวนี้ไม่เพียงสั่นสะเทือนไปทั่วทั้งตระกูลฉิน แต่ยังเป็นที่โจษจันกันไปทั่วทั้งเมืองมี่หยุนเลย
ดังนั้นเช้าวันนี้
นอกจากคนของตระกูลฉินแล้ว คนของแต่ละตระกูลใหญ่ต่างก็พากันมาไม่น้อย
เมื่อฉินชิงถงพูดจบ
คนตระกูลฉินอีกคนหนึ่งก็ได้เดินเข้ามาด้วยสีหน้าท่าทางที่หม่นหมองอย่างที่สุด
เขาคือชายวัยกลางคน ที่มีรูปร่างไม่สูงใหญ่
“นายก็คือหลินหยุนงั้นเหรอ? ”
“ชิงถงพูดถูก! ถ้าหากไม่ใช่นาย แม่ของเธอก็คงจะไม่ถูกท่านจินจับตัวเอาไว้! ”
“ตระกูลฉินของพวกเราก็ไม่ต้องตกอยู่ในสภาพเหตุการณ์เช่นนี้! ”
“ไอ้หนุ่ม ตอนนี้นายรีบไสหัวจากที่นี่เดี๋ยวนี้เลย! ”
“มิเช่นนั้นแล้ว ตระกูลฉินของเราจะไม่เกรงใจกับนายแล้ว! ”
หลินหยุนสีหน้าเย็นชาอย่างที่สุด
หลินหยุนมองไปที่ฉินชิงถงและชายวัยกลางคนผู้นั้นด้วยสายตาที่เย็นชา และพูดขึ้นเสียงแข็งว่า “ไสหัวไปซะ! ”
ได้ยินหลินหยุนสบถสองคำนี้ออกมา ทุกคนต่างก็พากันตกตะลึง
ฉินชิงถงกับชายวัยกลางคนนั้นยิ่งโกรธแค้นหนักขึ้นไปอีก
ฉินชิงถงตวาดใส่ด้วยเสียงดุดันว่า “นายพูดอะไร? หลินหยุน นายยังมีความอับอายอยู่บ้างไหม? ”
“ตอนนี้คนที่ควรไสหัวไปที่สุดก็คือนาย! ”
“นายยังมีสิทธิอะไรที่มาปรากฏตัวอยู่ที่นี่? ”
“นายยังกล้ามาเสนอหน้าที่นี่อยู่อีกเหรอ? ”
“เสียดายจริง ๆ ที่แม่ของฉันดีกับนายมากขนาดนั้น! ”
“น่าเสียดายที่แม่ของฉันยังอยากที่จะจับคู่ระหว่างนายกับฉัน! ”
“คนอย่างนายนี้ ต่อให้ผู้ชายบนโลกใบนี้ตายไปหมดแล้วฉันฉินชิงถงก็ไม่มีทางที่จะอยู่ด้วยกัน
กับนายเด็ดขาด! ”
ไม่เพียงแค่คนของตระกูลฉินเท่านั้น
เวลานี้
แม้แต่ผู้คนที่มุงดูอยู่โดยรอบ ต่างก็ได้พากันดุด่าว่ากล่าวหลินหยุนขึ้น
“ไอ้เด็กหนุ่มนี้มันมาจากที่ไหนกันแน่? ”
“ผู้ที่โง่เขลาช่างมีความกล้าหาญจริง ๆ เลย! ”
“ให้ร้ายตระกูลฉินขนาดนี้แล้วยังจะมาเสนอหน้าอยู่ที่นี่อีก! ”
“อีกทั้งยังจะไปขับไล่คนตระกูลฉินอีก เหอะเหอะ! ”
“นี่มันช่างโง่เขลาเบาปัญญาถึงขั้นไหนเชียว? ”
“แต่ว่าพลังความสามารถของไอ้หนุ่มนี้ไม่เลวจริง ๆ ได้ยินว่าตอนนั้นที่ตึกจุ้ยซิง ท่านจินตกใจ
ถึงขนาดที่ไม่กล้าจะลงมือ! ”
“จริงหรือเท็จกันแน่? ”
“ท่านจินเป็นถึงยอดฝีมือขั้นแดนยาทองที่แท้จริง! จะมาตกใจกลัวไอ้เด็กกระจอกผู้นี้ได้อย่างไร? ”
“ไม่ได้พบเห็นด้วยตาของตนเอง ใครจะไปรู้ได้ว่าจริงหรือเท็จล่ะ? ”
“พวกนายว่า เป็นไปได้ไหมที่ ไอ้เด็กหนุ่มนี้ที่จริงแล้วเป็นหมากของท่านจิน การปรากฏตัวของเขา
นั้นคือท่านจินเป็นผู้กำหนด? ”
เพียงชั่วครู่ ทฤษฎีสมคบคิดต่าง ๆ นา ๆ ก็ได้เกิดขึ้นแล้ว
แต่เรื่องที่หลินหยุนมีความสามารถในการต่อสู้กับยอดฝีมือแดนยาทองนั้น คนส่วนใหญ่ต่างก็ยังคงไม่เชื่อ
เพราะว่ามันน่าเหลือเชื่อจนเกินไป
ไม่ได้พบเห็นด้วยตาของตนเองไม่ว่าใครก็ไม่กล้าที่จะปักใจเชื่อได้
ในขณะนี้เอง รถม้าที่สง่างามคันหนึ่งก็ได้ขับเคลื่อนเข้ามาจากระยะไกล
เมื่อรถม้ามาถึง ก็มีเงาร่างของเด็กหนุ่มคนหนึ่งลงมาจากรถ