จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ บทที่ 1144
ไม่ทันรอให้หลินหยุนเอ่ยปาก หยุนหลานก็ได้เอนเอียงศีรษะไปมาและพูดกับตัวเองต่อไปว่า “ถูกต้อง แม้ว่าคุณจะช่วยเหลือพวกเราเอาไว้ แต่ก็ได้ไปล่วงเกินท่านจินเข้า! ”
“ส่วนในตอนนี้ เหตุการณ์ที่ตึกจุ้ยซิงนั้นต่างก็เป็นที่รับรู้กันไปทั่วทั้งเมืองแล้ว! ”
“และก็ทราบด้วยว่าท่านจินได้นำเรื่องนี้แจ้งไปยังวิหารผนึกวิญญาณผู้มีอิทธิพลเบื้องหลังแล้ว! ”
“ถ้าหากว่าคุณยังคงพักอยู่ที่ตระกูลฉินต่อไป ก็จะเป็นการสร้างอันตรายความเดือดร้อนให้กับ
ตระกูลฉินอย่างมาก! ”
“จากลักษณะนิสัยของฉินชิงถงแล้ว รวมถึงลักษณะท่าทีของเธอที่มีต่อคุณ เธอคงจะไม่ยอมที่จะ
ให้คุณพักอยู่ที่ตระกูลฉินต่อไปอีกแน่นอน! ”
“ถูกต้องถูกต้อง ถ้าหากคาดเดาไม่ผิด คุณคงจะถูกฉินชิงถงและกลุ่มคนรุ่นหลังของตระกูลฉิน
ร่วมตัวกันขับไล่ออกมาล่ะสิ! ”
“ฉันทายได้ถูกต้องไหมล่ะ? ”
หยุนหลานกระพริบดวงตาที่สวยงามและฉลาดเฉลียวของเธอ พร้อมกับหันหน้ามามองที่หลินหยุน
หลินหยุนเองก็เกิดความประหลาดใจอย่างมาก
เขาคิดไม่ถึงว่า ผู้หญิงที่อยู่เบื้องหน้าคนนี้จะเฉลียวฉลาดได้ถึงระดับนี้!
การคาดคะเนออกมาในแต่ละขั้นตอนนั้น เหมือนกับว่าเห็นด้วยตาของตนเองอย่างไรอย่างนั้น
เห็นว่าหลินหยุนเกิดความตกตะลึง หยุนหลานจึงหัวเราะเหอะเหอะและพูดว่า “ไม่ต้องตกตะลึง
ขนาดนี้ก็ได้ ก็เพียงแค่การคาดคะเนที่ง่ายดายเท่านั้นเอง”
“ใช่แล้ว คุณถูกตระกูลฉินขับไล่ออกมาคงจะยังไม่มีที่พักอาศัยล่ะสิ? ”
“ถ้าหากคุณเชื่อมั่นในตัวฉัน ฉันจะทำการจัดเตรียมที่พักให้คุณเอง! ”
“ถือว่าเป็นการขอบคุณในช่วงกลางวันที่คุณได้ช่วยเหลือฉันเอาไว้! ”
หลินหยุนกวาดสายตามองไปโดยรอบ
แบบนี้ก็สามารถที่จะลดความยุ่งยากของตนเองลงไปไม่น้อยเลยทีเดียว
จึงได้พยักหน้าและพูดว่า “ในเมื่อเป็นเช่นนี้ อย่างนั้นก็คงต้องรบกวนคุณแล้ว! ”
เห็นเขาตกลง หยุนหลานก็ตกใจขึ้นเล็กน้อย กะพริบตาและพูดขึ้นว่า “คุณตกลงแล้วเหรอ?
ฉันนึกว่าคุณจะปฏิเสธเสียอีก! ”
หลินหยุนพูดเบา ๆ ว่า “ทำไมฉันจะต้องปฏิเสธด้วยล่ะ? ”
หยุนหลานตกใจขึ้นกับคำถาม แล้วก็รีบส่ายศีรษะและหัวเราะคิกคักว่า “ไม่มีอะไร งั้นก็ตกลง
พวกเราไปกันเถอะ! ”
พูดจบ หยุนหลานก็เดินนำหน้าไป
หลินหยุนเดินตามด้านหลัง
เดินไปชั่วครู่ ก็มาถึงทางเหนือของเมือง บนถนนที่ค่อนข้างจะเปล่าเปลี่ยว
หยุนหลานพาหลินหยุนมาที่หน้าประตูโรงกลั่นยาแห่งหนึ่ง
หยุนหลานพูดเบา ๆ ขึ้นว่า “โรงกลั่นยาแห่งนี้คือธุรกิจของตระกูลหยุน ซึ่งดำเนินกิจการได้ไม่ดี
จึงต้องปิดตัวลง! ”
“ซึ่งไม่มีคนอยู่มาเป็นเวลานานแล้ว! ”
“แต่ว่าสถานที่แห่งนี้ค่อนข้างเงียบสงบ และไม่มีคนมายุ่งวุ่นวาย! ”
“ด้านหลังมีห้องพักอยู่จำนวนไม่น้อย! ”
“คุณพักอาศัยอยู่ที่นี่ชั่วคราวก่อน ได้ไหม? ”
หลินหยุนพยักหน้า และพูดขึ้นว่า “ขอบคุณมาก! ”
ขณะที่พูด ก็ได้ผลักประตูเข้าไป
โรงกลั่นยาแห่งนี้มีขนาดไม่ใหญ่นัก ด้านหน้าเป็นร้านค้า
ด้านหลังมีโรงกลั่น โกดังเก็บของ และรวมถึงห้องนอนที่พัก
ในอากาศยังคงได้กลิ่นที่หลงเหลือของไฟกลั่นยา และกลิ่นหอมของยา
แต่นานมากแล้วที่ไม่มีคนจัดการดูแล
ทุกที่เต็มไปด้วยใยแมงมุม
แต่สำหรับหลินหยุนแล้ว ไม่เป็นปัญหาอะไร
หลินหยุนสุ่มเลือกห้องนอนหนึ่งห้อง แล้วก็ผลักประตูเดินเข้าไป
ภายในห้องก็เต็มไปด้วยฝุ่นละอองเช่นกัน
หยุนหลานเห็นสภาพการณ์ดังนั้นก็รีบพูดขึ้นว่า “สกปรกรกรุงรังไปบ้าง แต่อย่างน้อยก็ยังเป็น
ที่อาศัยพักพิงได้”
“พรุ่งนี้ฉันจะมาช่วยคุณจัดเก็บให้เป็นระเบียบ”
“คุณวางใจได้ ฉันจะไม่กระจายข่าวบอกเล่าเรื่องของคุณออกไปอย่างแน่นอน! ”
หลินหยุนไม่ได้พูดอะไร
จะกระจายข่าวออกไปหรือไม่นั้น สำหรับเขาแล้วก็คงไม่เกิดผลกระทบอะไร
หลินหยุนหันหน้ามองไปที่หยุนหลาน และพูดขึ้นว่า “เอาเถอะ คุณกลับไปได้แล้ว! ฉันอยู่
คนเดียวได้! ”
หยุนหลานได้ยินดังนั้น ก็พลันเหลือบตาขาวขึ้น และพูดด้วยท่าทีไม่สบอารมณ์ว่า “ทำไมคุณถึง
เป็นคนอย่างนี้? ”
เห็นหลินหยุนไม่พูดไม่จา และเริ่มจัดเก็บทำความสะอาดห้องแล้ว
หยุนหลานกระทืบเท้ารุนแรงด้วยความโมโห แล้วก็หันหลังเดินจากไป
คนอะไรเนี่ย!
หน้าตาบูดบึ้งแบบนี้ ต่อให้มีพลังความสามารถที่แข็งแกร่งแล้วจะอย่างไร คงจะหาภรรยาไม่ได้ไป
ตลอดชีวิตแน่!
ฮึ!
หากไม่ได้เห็นว่านายเคยได้ช่วยเหลือฉันเอาไว้แล้วล่ะก็ ฉันเองคงจะไม่จัดหาที่หลับที่นอนให้นาย
อย่างเด็ดขาด!
ซึ่งฉันว่ามันไม่คุ้มเอาเสียเลยที่ดึกดื่นขนาดนี้แล้วยังจะมาอยู่ที่บริเวณแถวบ้านตระกูลฉินเพื่อรอ
นายถูกขับไล่ออกมา……
ช่างน่าโมโหยิ่งนัก!
หลินหยุนที่กำลังจัดเก็บของ อยู่ภายในห้อง ได้ยินหยุนหลานบ่นพึมพำ ก็หยุดชะงักลงชั่วครู่
หลังจากที่จัดเก็บของบางส่วนแล้ว หลินหยุนก็นั่งขัดสมาธิลงบนเตียง ทำการบำเพ็ญฝึกฝนต่อ
ไม่มีเรื่องอะไรที่จะสำคัญไปกว่าการบำเพ็ญฝึกฝนของเขาแล้ว
ถึงแม้จะเป็นเรื่องการตามหาร่องรอยของเย่เยว่ที่เหลือทิ้งไว้ เมื่อเทียบกันแล้วก็คงไม่สำคัญเท่า
เวลานี้
ทางตะวันออกของเมืองมี่หยุน
วิลล่าขนาดใหญ่ที่มีความโบราณและเรียบง่ายหลังหนึ่ง ชื่อว่าวิลล่าจิน
นั่นก็คือคฤหาสน์ของท่านจิน
ภายใต้แสงจันทร์ยามค่ำคืน ผู้หญิงเพียงลำพังคนหนึ่งมาถึงที่ด้านหน้าประตูของวิลล่า
หลังจากที่ยามเฝ้าประตูเห็นแล้ว ก็รีบเข้าไปแจ้งรายงานทันที
ไม่นานนัก ผู้หญิงคนนั้นก็ถูกนำตัวเข้ามาด้านในวิลล่า
เห็นผู้หญิงเดินเข้ามาด้านในแล้ว ท่านจินก็ยิ้มขึ้นทันที
พร้อมกับเอ่ยปากพูดว่า “ที่จริงแล้วก็คือคุณหนูฉินนี่เอง มาพบฉันที่วิลล่าจินในยามดึกดื่นแบบนี้
ไม่ทราบว่ามีธุระอะไรเหรอ? ”
การมาถึงของฉินเหมยนั้น เขาทั้งแปลกใจและก็ไม่แปลกใจ
และก็เข้าใจได้ถึงจุดประสงค์ของการมาหาในครั้งนี้
ฉินเหมยสูดลมหายใจลึก และพูดขึ้นว่า “ท่านจิน สำหรับเหตุการณ์ตอนกลางวันที่ตึกจุ้ยซิงนั้น
ไม่ทราบว่าจะสามารถขอให้เรื่องราวที่เกิดขึ้นนั้นจบลงด้วยดีได้ไหม? ”
“ที่มาในวันนี้ ก็เพราะต้องการให้ท่านจินอภัยให้กับเรื่องที่เกิดขึ้น! ”
ขณะที่ฉินเหมยพูด ก็ได้แกว่งแขนเบา ๆ กล่องไม้ที่ประณีตงดงามก็ปรากฏขึ้นที่เบื้องหน้าของ
ท่านจิน
ฉินเหมยได้ทำการเปิดกล่องไม้นั้นขึ้น
ทันใดนั้น ผลไม้สีดำ ที่มีขนาดประมาณเท่ากำปั้นก็ได้ปรากฏขึ้นเบื้องหน้าของเขา
เมื่อเห็นผลไม้นี้แล้ว ลูกตาดำของท่านจินก็ได้หดตัวลงเล็กน้อย
ลูกน้องกี่คนที่อยู่ด้านข้างต่างก็ได้พากันสูดลมหายใจลึก
“นี่ นี่คือผลไม้หมินหลิงเหรอ? ”
“พระเจ้า ผลไม้หมินหลิงหนึ่งลูก มีมูลค่ามากกว่าน้ำชี่ทิพย์หนึ่งพันหยดเสียอีก! ”
“อีกทั้งยังเป็นสิ่งของที่มีมูลค่าและหาได้ยากอีกด้วย! ”
ผลไม้หมินหลิง คือหนึ่งในสิ่งของหายากที่ใช้ในการเพิ่มพลังความสามารถในโลกคุนชาง
ซึ่งมีความล้ำค่าเป็นอย่างมาก
ผลไม้ประเภทนี้ไม่เพียงแค่สามารถบำบัดพลังทิพย์ให้บริสุทธิ์ และบดบังอำนาจปีศาจร้ายแล้ว
ยังสามารถประยุกต์ใช้ในการกลั่นยาและหล่อหลอมเพิ่มพลังอาวุธได้อีกด้วย
ดังนั้น ผลไม้หมินหลิงนี้ เป็นที่ต้องการสูงมาก
และที่สำคัญที่สุดคือ เมื่อใช้ผลไม้หมินหลิงมาสังเวยบูชาตะปูขังวิญญาณไร้ที่ติของท่านจินแล้ว
ตะปูขังวิญญาณไร้ที่ตินั้นจะเพิ่มระดับความเก่งกาจขึ้นได้อีกด้วย
นี่ก็คือเหตุผลที่ว่าทำไมฉินเหมยถึงได้เลือกผลไม้หมินหลิงมาเป็นของขวัญ
ท่านจินหัวเราะเหอะเหอะ พร้อมกับหรี่ตาลงแล้วมองไปที่ฉินเหมยและพูดขึ้นว่า “คุณหนูฉินทำไม
จะต้องทำเช่นนี้ด้วย? ”
“ฉันทราบดีว่า ไอ้หนุ่มหลินหยุนนั้นเพิ่งจะมาถึงเมืองมี่หยุน เพิ่งจะมาอยู่ที่ตระกูลฉิน! ”
“เพียงแค่ตระกูลฉินไม่เข้ามาเกี่ยวข้อง ตัวฉันเองก็จะไม่จงใจมุ่งเป้าไปยังตระกูลฉินอย่างแน่นอน! ”
ได้ยินที่เขาพูด ฉินเหมยไม่ได้เบาใจลง กลับยิ่งเคร่งเครียดมากขึ้นอีก
สูดลมหายใจอีกครั้ง แล้วมองไปที่ท่านจินและพูดขึ้นว่า “ท่านจิน กรุณารับของขวัญเล็กน้อยชิ้นนี้
เอาไว้ และก็ขอให้เกียรติเห็นแก่หน้าตาของตระกูลฉินสักหน่อยเถอะ! ”
ท่านจินได้ยินดังนั้น ก็ถึงกับหัวเราะเยาะเย้ยขึ้น
“ให้เกียรติกับตระกูลฉินอย่างนั้นเหรอ? ”
“ตระกูลฉินมีเกียรติมีหน้ามีตาเมื่ออยู่ต่อหน้าฉันตั้งแต่เมื่อไรกัน? ”
“ทำไมฉันถึงไม่ทราบมาก่อนเลย? ”
ฉินเหมยสีหน้าท่าทางย่ำแย่ลงโดยพลัน
ท่านจินพูดขึ้นอย่างเหยียดหยามว่า “ไม่ต้องพูดถึงตระกูลฉินหรอก ต่อให้เป็นตระกูลฉู่ ตระกูลจง
หรือว่าสำนักสุริยัน จะมีใครกล้าที่จะมาให้ฉันให้เกียรติไว้หน้าพวกเขาด้วย? ”
ฉินเหมยได้ยินดังนั้นจึงรีบพูดขึ้นทันทีว่า “แน่นอน ท่านจินมีสถานะที่สูงศักดิ์ขนาดนี้! ”
“แต่ว่า ก็เป็นเพราะสถานะที่สูงศักดิ์ของท่าน แล้วทำไมจะต้องมาคิดเล็กคิดน้อยกับเด็กหนุ่ม
คนหนึ่งด้วยล่ะ? ”
“เหอะเหอะ เธอคิดที่จะช่วยเหลือเด็กหนุ่มคนนั้น? ” ท่านจินเปลือกตากระตุก “ไม่ใช่ว่าจะไม่ได้! ”
ฉินเหมยตื่นเต้นดีใจขึ้นโดยพลัน
“ท่านจินได้โปรดพูดมาเลย ไม่ว่าจะเป็นเงื่อนไขความต้องการอะไร เพียงแค่ฉันสามารถที่จะทำได้
จะพยายามทำให้สำเร็จอย่างเต็มที่! ”
“ใช่เหรอ? ในเมื่อเป็นเช่นนี้ อย่างนั้นฉันก็ขอพูดเลยก็แล้วกัน! ”
“ถ้าหากคุณหนูฉินพักอยู่ด้วยกันกับฉันคืนหนึ่ง ฉันก็จะลองพิจารณายกโทษให้ได้! ”
ท่านจินแสดงสายตาที่มีเลศนัยขึ้น