จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ บทที่ 1084
นิ่งโหย่วหรงผมเผ้ายุ่งเหยิง สภาพน่าอดสู้ แต่ว่าภาพนี้กลัยเต็มไปด้วยเสน่ห์แปลก ๆ
อุณหภูมิรอบ ๆ หลินหยุนลดลงอย่างกะทันหัน
หลอหยวนป้าใจสั่นสะท้าน จากนั้นก็พูดอย่างสั่นเทา “ฉันไม่ได้แตะต้องเธอ ฉันเพิ่งพาเธอกลับมา ยังไม่ทันได้ทำอะไร นายก็มาแล้ว!”
หลินหยุนเดินขึ้นมา จากนั้นก็โบกมือเพื่อช่วยนิ่งโหย่วหรงคลายพันธนาการ
นิ่งโหย่วหรงกอดหลินหยุนทันทีอย่างแรงเนื่องจากกลัวว่าหลินหยุนจะหายไปทันทีที่ตนปล่อยมือ
“ไม่ต้องกลัว มันผ่านไปแล้ว” หลินหยุนปลอบโยน
เขาจำได้ว่าครั้งแรกที่เห็นนิ่งโหย่วหรง เธอคือหญิงงามอันดับหนึ่งของเมืองหลวงที่ทั้งเย่อหยิ่งและแข็งแกร่ง
อย่างไรก็ตาม โชคชะตาไม่ยุติธรรมกับหญิงสาว ตอนนี้เธอไม่เหลือความเย่อหยิ่งนั้นแล้ว เหลือแค่ความแข็งแกร่ง
จนกระทั่งนิ่งโหย่วหรงได้สติกลับมา หลินหยุนก็ค่อยตบหลอหยวนป้าลงไปกับพื้น จากนั้นก็เหยียบลงที่ตำแหน่งตันเถียนของเขา
“อ๊าก!”
หลอหยวนป้ากรีดร้องด้วยความหวาดกลัว “พลังบำเพ็ญของฉัน!”
หลินหยุนมองไปที่นิ่งโหย่วหรงและพูดว่า “เขาพิการไปแล้ว เธอคิดจะทำอะไรก็ทำอย่างสบายใจเถอะ!”
นิ่งโหย่วหรงหันกลับมามองที่หลอหยวนป้า ความเกลียดชังปรากฏขึ้นบนใบหน้าที่สวยงามของเขา
นิ่งโหย่วหรงไม่พูดอะไรแต่เดินไปข้าง ๆ อย่างเงียบๆ แล้วหยิบกริชขึ้นมา
จากนั้นเขาก็เริ่มกรีดมัดอย่างช้าๆบนตัวของหลอหยวนป้า
เริ่มจากใบหน้าของหลอหยวนป้า ที่มีรอยมีดมากกว่า 100 เล่ม
ในช่วงเวลานี้ เสียงกรีดร้องของหลอหยวนป้ายังคงดำเนินต่อไปเป็นเวลาครึ่งชั่วโมง
หลินหยุนยืนอยู่ข้าง ๆ และมองดูเธออย่างเงียบ ๆ
ดูความโกรธบนใบหน้าของนิ่งโหย่วหรงค่อยๆสลายไปอย่างช้าๆ จากนั้นจึงกลายเป็นความเศร้าโศกแล้วร้องไห้อย่างบ้าคลั่ง
กริชในมือของเธอก็เปลี่ยนจากช้าเป็นเร็ว และในที่สุดก็จบชีวิตของหลอหยวนป้าลง
“พ่อแม่และทุกคนในตระกูลนิ่ง ฉันขอล้างแค้นให้พวกคุณ!”
นิ่งโหย่วหรงคุกเข่าลงกับพื้นและร้องไห้น้ำตานองหน้า
หลินหยุนมองไปที่เธอซึ่งดวงตาพึ่งจะกระจ่างใสขึ้นมา เขารู้ว่าปิศาจในใจของนิ่งโหย่วหรงได้ผ่านไปแล้ว
“กลับกันเถอะ!” หลินหยุนกล่าวอย่างแผ่วเบา
นิ่งโหย่วหรงหันกลับมาและคำนับให้หลินหยุน
หลินหยุนไม่ได้หยุดเธอ
“ขอบคุณที่ช่วยแก้แค้นให้ฉัน จากนี้ไปฉันยินดีที่จะเป็นผู้ติดตามรับใช้คุณ!” ดวงตาของนิ่งโหย่วหรงแน่วแน่ มั่นคง
“เธอไม่จำเป็นต้องทำแบบนั้น” หลินหยุนเอ่ย
“ฉันทำลายสำนักชิงชางเพราะพวกเขากล้ามาปล้นผู้คนไปจากชางฉองกรุ๊ป ฉันกำลังเชือดไก่ให้ลิงดู”
“เธอก็ยังเป็นเธอ ไม่ได้เป็นทาสรับใช้ของใคร”
นิ่งโหย่วหรงยังยืนกรานต่อ “คุณไม่จำเป็นต้องยอมรับฉัน แต่ฉันยอมรับคุณ”
เด็กสาวผู้นี้แม้จะสูญเสียความเย่อหยิ่งไปแล้ว แต่ความดื้อรั้นฝังเข้ากระดูกของเขาก็ยังคงไม่มีการเปลี่ยนแปลง
หลินหยุนไม่ได้ปฏิเสธและกล่าวเรียบๆ “กลับกันเถอะ!”
ทั้งสองออกจากสำนักชิงชาง ในขณะนี้ เจ้าหน้าที่ระดับสูงสุดของสำนักชิงชางเกือบทั้งหมดถูกหลินหยุนฆ่า และพวกลูกศิษย์เหล่านั้นก็ได้ถือโอกาสหนีลงมาจากภูเขาในขณะที่หลินหยุนกำลังตามหานิ่งโหย่วหรง
ตอนนี้ในสำนักชิงชางไม่มีใครรอดอยู่อีก
หลินหยุนคนเดียว ทำลายสำนักชิงชางลงทั้งหมด
ข่าวนี้ ถูกแพร่ออกไปโดยเหล่าลูกศิษย์ที่หนีจากสำนักชิงชางพวกนั้น และก็ทำให้กลุ่มคนที่ถูกซุ่มโจมตีที่ทางเข้าหุบเขาเก้าหัวก็ได้รู้ด้วยเช่นกัน
อู๋ยิวหมิงผู้อาวุโสแห่งเขาคุนชางเมื่อได้ยินข่าวนี้ก็ตื่นตะลึง “เขาคนเดียว ฆ่าล้างทั้งสำนัก!”
“หลินชางฉองผู้นี้จะมีชีวิตอยู่ต่อไปไม่ได้ เขาต้องถูกฆ่า!”
“ไม่เช่นนั้น จากนี้ไปโลกบู๊โบราณของเราคงไม่มีวันได้เชิดหน้าชูตา!”
คนอื่นๆ พยักหน้าเห็นด้วย “ใช่ หลินชางฉองต้องตาย!”
“อัตราการเติบโตของเขาน่ากลัวเกินไป หากให้เวลาเขาอีกสักสองสามปี ถึงตอนนั้นต่อให้พวกเราสี่ค่ายใหญ่กรูกันออกมา ก็อาจไม่เพียงพอที่จะฆ่าเขาคนเดียวได้!” ผู้อาวุโสอีกคนพูดด้วยความเป็นห่วง
ผู้คนมีความตั้งใจที่จะฆ่าหลินหยุนมากขึ้น
หลินหยุนพานิ่งโหย่วหรงออกจากสำนักชิงชาง เมื่อเห็นศพที่ด้านหน้าประตูของสำนักชิงชาง สีหน้าของนิ่งโหย่วหรงก็ดูซีดขาวอยู่บ้าง
แม้ว่าเธอจะเกลียดคนของสำนักชิงชาง แต่ในฐานะคนธรรมดาเมื่อเห็นภาพนี้ก็รับไม่ได้จริงๆ
หลินหยุนเอ่ยเรียบๆ “ถ้าเธอต้องการเดินไปพร้อมกับฉัน อย่างนั้นเธอก็ควรพยายามยอมรับฉากเหล่านี้ให้ได้”
“และนี่เป็นเพียงแค่ฉากเล็กๆ เท่านั้น ในอนาคตจะมีภาพที่น่าโหดร้ายมากกว่านี้”
นิ่งโหย่วหรงตกใจ ในความเห็นของเธอ หลินหยุนมีความแข็งแกร่งที่ไม่มีใครเทียบได้ อย่างไรก็ตาม เมื่อได้ยินหลินหยุนพูดแบบนั้น เธอก็สามารถจินตนาการได้ว่าหลินหยุนเคยผ่านประสบการณ์อะไรมาบ้าง
แค่เห็นศพเหล่านี้ นิ่งโหย่วหรงก็รู้สึกหัวใจเต้นแรง เมื่อกลับไปก็ไม่รู้ว่าเธอจะต้องฝันร้ายไปอีกกี่วัน
แต่สิ่งเหล่านี้สำหรับหลินหยุนแล้วเป็นภาพอันคุ้นเคย และยังมีภาพที่โหดร้ายมากกว่านี้อยู่อีก
เขาที่เคยผ่านประสบการณ์พวกนั้นต้องเจ็บปวดและทุกข์ทรมานมากเพียงใดกัน?
ความแข็งแกร่งอันน่าภาคภูมิใจที่เขาครอบครองอยู่ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ
นิ่งโหย่วหรงมีสีหน้าเคร่งขรึมขึ้นมา เธอพยักหน้าและพูดว่า “ฉันเข้าใจ”
“ฉันจะพยายามยอมรับมัน”
ระหว่างที่คุยกัน พวกเขาก็มาถึงขอบหน้าผาแล้ว หลินหยุนมองไปที่เธอและพูดว่า “ฉันจะพาเธอลงไป”
หลินหยุนยื่นมือออกมาจากนั้นก็โอบนิ่งโหย่วหรงเอาไว้ด้วยความนุ่มนวลและกระโดดลงไปพร้อมกับเธอ
แม้ว่านิ่งโหย่วหรงจะตกใจจนเหงื่อเย็นเฉียบ แต่เธอก็ยังบังคับตัวเองให้ลืมตาและรู้สึกถึงการตกลงไปอย่างอิสระ
เสียงของหลินหยุนดังขึ้น “ไม่ต้องกังวล อย่าฝืนต่อต้าน แค่พยายามยอมรับ”
“อืม” นิ่งโหย่วหรงพยักหน้าและผ่อนคลายร่างกาย ราวกับใบหน้าที่ร่วงหล่นจากบนท้องฟ้า
ในไม่ช้า ทั้งสองก็ลงมายังพื้นดิน
นิ่งโหย่วหรงไม่มีความกลัวแล้ว แต่กลับรู้สึกไม่อยากให้มันสิ้นสุดอยู่บ้าง
“ไปกันเถอะ”
หลินหยุนพูดจบและเดินไปข้างหน้า
ทั้งสองออกไปพร้อมกัน
ไม่นานพวกเขาก็มาถึงหุบเขาเก้าหัวก็ได้เข้าไปในวงล้อมของสี่ค่ายใหญ่
หลินหยุนมองไปรอบๆ แน่นอนว่าพวกที่ซุ่มโจมตีเหล่านี้นั้นไม่สามารถหลบลอดไปจากสายตาของเขาได้ แต่ว่าเขามีอะไรให้กลัวกัน?
“ออกมาให้หมด!”
หลินหยุนหยุดลงที่ปากหุบเขาและพูดเรียบๆขึ้นมา
น้ำเสียงของเขาผสมกับพลังทิพย์อันแก่กล้าดังกระจายออกไป
“เขารู้เข้าแล้ว ทำยังไงดี?” ผู้อาวุโสคนหนึ่งของเขาคุนชางมองไปที่อู๋ยิวหมิงซึ่งเป็นผู้รับผิดชอบงานนี้เอ่ยถาม
อู๋ยิวหมิงขมวดคิ้วเล็กน้อย “ปรากฏตัวเถอะ!”
“ต่อให้เขารู้แล้วก็ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงอะไรได้ ครั้งนี้เขาต้องตาย”
“ปรากฏตัวเถอะ!”
อู๋ยิวหมิงตะโกนขึ้น ยอดฝีมือหลานสิบคนที่ซุ่มโจมตีก็พุ่งออกมาและล้อมหลินหยุนและนิ่งโหย่วหรงไว้ตรงกลาง
นิ่งโหย่วหรงตะลึง “คนเยอะขนาดนี้เชียว!”
“หรือว่าคนเหล่านี้ก็เป็นคนของสำนักชิงชางงั้นหรือ?”
หลินหยุนมองไปที่คนเหล่านั้นและพูดเรียบๆ “ไม่ คนเหล่านี้มาเพื่อฆ่าฉัน”
นิ่งโหย่วหรงมองไปที่หลินหยุนและกังวลอยู่บ้าง “คุณสามารถเอาชนะพวกเขาได้หรือไม่?”
หลินหยุนเอ่ย “ได้”
“อีกเดี๋ยวห้ามอยู่ห่างจากฉันเกินระยะหนึ่งเมตร ฉันจะรับรองความปลอดภัยของเธอเอง”
นิ่งโหย่วหรงพยักหน้า “ตกลง”
เธอมีความเชื่อในหลินหยุน
“ฆ่า!” อู๋ยิวหมิงไม่พูดพร่ำ เขาออกคำสั่งทันทีตรงด้วยใบหน้ามืดมน
ผู้แข็งแกร่งแดนเทพกว่า 20 คน บวกกับปรมาจารย์ขั้นสูงสุดกว่า 50 คน จนเรียกได้ว่ารวบรวมความแข็งแกร่งเกือบครึ่งหนึ่งของโลกบู๊โบราณเอาไว้
“หลินชางฉอง วันนี้เจ้าต้องตาย!” อู๋ยิวหมิงแค่นเสียง
หลินหยุนยืนมือไพล่หลัง สีหน้าราบเรียบ ดาบเฮ่าเทียนวนอยู่รอบตัวเขาราวกับมังกร “ก็ไม่แน่”
หากเป็นเมื่อก่อน การเจอกับผู้กล้าแดนเทพจำนวนมากขนาดนี้ ต่อให้หลินหยุนจะสามารถจัดการกับพวกเขาได้ แต่เกรงว่าเขาก็มีบทเรียนราคาแพงที่ต้องจ่าย
แต่ไม่ใช่ในตอนนี้
“ไป!”
อู๋ยิวหมิงตะโกนลั่น จากนั้นผู้อาวุโสแดงดั่งเทพสองคนของเขาคุนชางก็ชิงลงมือ
ทั้งสองคนเป็นพี่น้องกัน ฝึกฝนบู๊มาด้วยกัน อีกทั้งยังมีพรสวรรค์ไม่เลวอย่างยิ่ง ทั้งสองล้วนบำเพ็ญจนอยู่ในขอบเขตแดนเทพ
อีกทั้งยิ่งไปกว่านั้นเมื่อทั้งสองลงมือพร้อมกันและให้ความร่วมมือกันอย่างใกล้ชิด ก็จะยิ่งราวกับกระแสจิตเชื่อมถึงกันจนสามารถเพิ่มความแข็งแกร่งได้อีกไม่น้อย