จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ – บทที่ 1046 วิญญาณในจี้หยก
ในจี้หยกชิ้นนี้ มีวิญญาณที่ทรงพลังแฝงอยู่
ช่วงเวลาที่ยาวนานมานี้ วิญญาณดวงนี้ไม่ได้เคลื่อนไหวอะไรมาก่อนเลย ทำให้หลินหยุนแทบจะ
ลืมไปว่ายังมีเขาอยู่
แต่ว่า ครั้งนี้ที่พบกับเย่จื่อเชี่ยนอีกครั้ง คิดไม่ถึงว่าวิญญาณดวงนี้จะเคลื่อนไหวขึ้น
หรือว่า วิญญาณดวงนี้มีความสัมพันธ์อะไรกับเย่จื่อเชี่ยน
คาร์นอตวิลเลียมที่อยู่ด้านข้างแอบกระซิบถามหลินหยุนขึ้นว่า: “พวกนายรู้จักกันเหรอ? ”
หลินหยุนพูดว่า: “เพื่อนคนหนึ่ง”
สายตาของคาร์นอตวิลเลียม มองสำรวจไปที่เด็กหนุ่มสองคนนั้น
“สาวน้อย ดูเหมือนว่าเพื่อนนักเรียนสองคนของเธอนี้จะไม่ค่อยเป็นมิตรสักเท่าไร! ”
“จะให้พวกเราช่วยจัดการสั่งสอนพวกเขาสักหน่อยไหม? ”
ฟาวล์เคสตวาดใส่ว่า: “เฮ่ย นายไอ้คนสารเลว กำลังพูดอะไรอยู่น่ะ? “นึกไม่ถึงว่าเธอจะอยู่ร่วมกับชาวจีนที่ขี้ขลาด ทำให้พวกเราต้องอับอายขายหน้ากันไปหมดแล้ว! ”
เย่จื่อเชี่ยนขมวดคิ้ว โดยสายตาที่มองไปยังฟาวล์เคสนั้นเหมือนกับกำลังมองไปที่คนโง่ และพูดขึ้น
อย่างเย็นชาว่า: “ถ้านายยังไม่อยากตาย ก็หุบปากของนายซะฟาวล์เคส! ”
เย่จื่อเชี่ยนรู้ถึงความน่ากลัวของหลินหยุน หากอยู่ที่จีนบางทีหลินหยุนอาจจะมีความพะว้าพะวัง
อยู่บ้าง แต่อยู่ที่นี่ เกรงว่าหลินหยุนจะไม่มีความพะว้าพะวังอะไรเลยแม้แต่น้อย
แต่ว่า ฟาวล์เคสจะไปเข้าใจถึงความหวังดีของเย่จื่อเชี่ยนได้อย่างไรกัน? โดยที่เขายังนึกว่า
เย่จื่อเชี่ยนกำลังเข้าข้างปกป้องหลินหยุนอยู่
เปรี๊ยะ!
ฟาวล์เคสตบเข้าไปที่ใบหน้าของเย่จื่อเชี่ยน
“ผู้หญิงจีนหน้าโง่ คนอย่างเธอมีสิทธิที่จะใช้อารมณ์พูดกับฉันแบบนี้ด้วยเหรอ รนหาที่ตาย! ”
เย่จื่อเชี่ยนตกใจและหวาดกลัว โดยมองไปที่ฟาวล์เคสอย่างไม่ได้รับความเป็นธรรม พร้อมกับน้ำตา
ไหลคลอเบ้า
หลินหยุนสีหน้าเยือกเย็นลงแล้ว
ส่วนคาร์นอตวิลเลียมลงมือจัดการทันที
เพียงแค่ฝ่ามือเดียว ก็ตบจนฟาวล์เคสล้มกองไปที่พื้น
คาร์นอตวิลเลียมใช้ขาข้างหนึ่งเหยียบไปบนใบหน้าของฟาวล์เคส ยิ้มเยาะและพูดว่า: “เพื่อนของ
ปรมาจารย์หลินแกยังกล้าที่จะตบตี แกนี่มันช่างสารเลวจริง ๆ! ”
ฟาวล์เคสใช้มือค้ำยันไปบนพื้น คิดที่จะสลัดให้หลุดพ้นจากเท้าของคาร์นอตวิลเลียม แต่ว่า แรงพลังของเขาที่เป็นคนธรรมดาทั่วไปนั้น จะไปเทียบกับแรงพลังของคาร์นอตวิลเลียมได้อย่างไร
“ไอ้สารเลวที่สมควรตาย เอาเท้าอันสกปรกของแกออกไป! ”
“นายรู้ไหมว่าฉันคือใคร? ฉันชื่อว่าจอร์จ ฟาวล์เคส ฉันคือสมาชิกของตระกูลจอร์จ! ”
“ฉันขอสาบานต่อเทพแห่งสว่าง ถ้าหากนายยังไม่นำเท้าออกไปอีกล่ะก็ ฉันจะฆ่านายเดี๋ยวนี้ ฉันจะฆ่านายเดี๋ยวนี้จริง ๆ! ”
สีหน้าของคาร์นอตวิลเลียมแสดงรอยยิ้มที่แปลกประหลาดออกมา: “ตระกูลจอร์จ? ”
“จอร์จ เคทไอ้คนนั้นเป็นอะไรกับนาย? ”
ฟาวล์เคสโมโหอย่างมาก: “หุบปาก นั่นคือเจ้าบ้านตระกูลจอร์จของพวกเรา! ”
คาร์นอตวิลเลียมหัวเราะมากขึ้นอีก: “ที่แท้เขาก็ได้ขึ้นเป็นเจ้าบ้านตระกูลของพวกนายแล้ว”
“แต่ว่า ตระกูลจอร์จถ้าหากแต่ละคนเป็นคนที่ไม่ได้เรื่องได้ราวอย่างนาย อย่างนั้นก็คงจะไม่ไกล
จากความล่มสลายแล้ว”
ฟาวล์เคสจะคิดได้อย่างไรว่า เด็กหนุ่มที่มีอายุรุ่นราวคราวเดียวกันกับเขาที่อยู่ด้านหน้าของเขานี้ อายุตามจริงแล้วยังจะมากกว่าคุณปู่ของเขาเสียอีก
ได้ยินเสียงที่วางมาดถือดีว่าเป็นผู้อาวุโสของคาร์นอตวิลเลียมแล้ว ฟาวล์เคสก็ดุด่าขึ้นด้วย
ความโมโห: “ในปารีส ยังไม่มีใครกล้าที่จะไม่ให้เกียรติตระกูลจอร์จของพวกเรา หากนายกล้าที่จะ
ไม่เคารพเจ้าบ้านตระกูลของพวกเราอีก ฉันสาบานว่า นายจะต้องตายอย่างอเนจอนาถแน่นอน! ”
คาร์นอตวิลเลียมหัวเราะ: “อย่างนั้นก็ให้จอร์จ เคทมาหาฉันสิ แล้วมาดูกันว่าถึงตอนนั้นใครกันแน่
ที่จะตายอย่างอเนจอนาถ”
เด็กหนุ่มที่อยู่ด้านข้างนั้น เห็นว่าฟาวล์เคสถูกคาร์นอตวิลเลียมเหยียบอยู่บนพื้น แต่กลับไม่ได้คิด
ที่จะช่วยเหลือฟาวล์เคสเลยแต่อย่างใด
กลับกลายเป็นว่ายิ้มดีใจที่เห็นคนอื่นเป็นทุกข์พร้อมกับพูดขึ้นว่า: “เฮ่ย ฟาวล์เคส ชื่อเสียงตระกูล
จอร์จของพวกนายเหมือนจะไม่ได้เรื่อง! ”
“แม้แต่จอร์จ เคทก็ยังไม่อยู่ในสายตา ไอ้หนุ่ม นายใจเด็ดจริง ๆ! ”
“ฉันมาจากตระกูลไมค์ ชื่อไมค์ เจซัน ต้องการที่จะเป็นเพื่อนกับนาย! ”
เด็กหนุ่มคนนั้นอ้าแขนทั้งสองข้างให้กับคาร์นอตวิลเลียม อยากที่จะโอบกอดกับคาร์นอตวิลเลียม
หากอยู่ที่จีน ก็เทียบได้กับการจับมือกับผู้อื่น
แต่น่าเสียดายที่ คาร์นอตวิลเลียมกลับยิ้มเยาะอย่างเหยียดหยาม: “น่าเสียดาย นายยังไม่คู่ควรที่
จะมาเป็นเพื่อนกับฉัน ต่อให้เป็นไอ้แก่ไมค์ คาร์เตอร์ นั้น ก็ยังไม่กล้าพูดว่าขอเป็นเพื่อนกับฉันเลย แล้วนับประสาอะไรกับนายล่ะ! ”
คาร์นอตวิลเลียมพูดจบ ก็ขยับแต่งปกคอเสื้อที่ไม่มีรอยยับแม่แต่น้อย ด้วยสีหน้าที่หยิ่งยโส
ชัดเจนว่าเจซันมีความเฉลียวฉลาดมากกว่าฟาวล์เคสอยู่บ้าง โดยที่ตระกูลไมค์กับตระกูลจอร์จ ต่างก็เป็นตระกูลชั้นสูงในปารีส
คิดไม่ถึงว่าเด็กหนุ่มคนนี้จะไม่ให้เกียรติกันขนาดนี้เลย อีกทั้งเมื่อเอ่ยปากก็พูดถึงชื่อของเจ้าบ้านทั้ง
สองตระกูลอีกด้วย
เจซันรู้สึกว่า เด็กหนุ่มเบื้องหน้านี้คงจะไม่ใช่คนธรรมดาเป็นแน่
“นายเป็นใคร? ” เจซันถามขึ้นด้วยสีหน้าท่าทางที่จริงจัง
ฟาวล์เคสยังดุด่าขึ้นอีกว่า: “ไอ้สารเลว ถ้าแน่จริงนายก็ปล่อยตัวฉันสิ ฉันจะเรียกคนมาเดี๋ยวนี้ แล้วนายก็จะต้องตายอย่างอเนจอนาถแน่นอน”
คาร์นอตวิลเลียมได้ปล่อยเท้าออก แล้วเอามือกอดอก และพูดขึ้นอย่างเย็นชาว่า: “เรียก เรียกมาตอนนี้เลย ฉันจะรออยู่ที่นี่! ”
ฟาวล์เคสเดินมายังด้านข้าง แล้วก็รีบโทรศัพท์ไปหาคนที่บ้าน ซึ่งความโกรธทำให้เขาสูญสิ้นสติปัญญา
เย่จื่อเชี่ยนใช้มือกุมไปที่ใบหน้าที่ถูกตบจนแดงก่ำ และกระซิบถามหลินหยุนว่า: “ครอบครัวของ
ฟาวล์เคส เหมือนจะมีอิทธิพลอำนาจมากในพื้นที่แห่งนี้ เพื่อนของคุณคงจะไม่เกิดเรื่องใช่ไหม? ”
หลินหยุนยิ้ม และพูดว่า: “วางใจได้ เธอควรจะอธิษฐานให้เพื่อนนักเรียนทั้งสองคนของเธอนั้น
ไม่เกิดเรื่องมากกว่า”
“อ่า! ” เย่จื่อเชี่ยนตกใจขึ้น
แต่เมื่อคิดอีกที บุคคลที่สามารถอยู่กับปรมาจารย์หลินได้นั้น จะเป็นคนธรรมดาได้อย่างไรกัน?
เห็นคาร์นอตวิลเลียมจัดการจริงจังกับพวกเด็กหนุ่มสองคนนี้ หลินหยุนเองก็ไม่ได้ไปขัดขวาง เพราะบางเรื่องบางสิ่งหากเก็บกดอยู่ในใจเป็นเวลานานเกินไป จะทำให้คนผู้นั้นเกิดปัญหาขึ้นได้
ระบายออกมาบ้าง จะมีผลดีต่อสุขภาพร่างกายและจิตใจ
เมื่อโทรศัพท์เสร็จแล้ว ฟาวล์เคสก็มองไปที่คาร์นอตวิลเลียมด้วยสีหน้าที่โหดเหี้ยม: “ไอ้สารเลว
ที่สมควรตาย แกจะต้องตายอย่างแน่นอน! ”
“พ่อของฉันจะเป็นผู้นำกำลังมาเอง! ”
คาร์นอตวิลเลียมไม่ได้สนใจเขา แล้วก็มองไปยังเจซันด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้ม: “นายไม่โทรศัพท์ไปหา
คนที่บ้านบ้างเหรอ? ”
เจซันลังเลใจชั่วครู่ โดยที่ไม่พูดไม่จาอะไร เขาอยากที่จะดูว่าไอ้คนที่อยู่เบื้องหน้านี้ตกลงว่ามีใคร
เป็นผู้พักพิงอยู่เบื้องหลังกันแน่
ฟาวล์เคสคงจะมีสถานะที่ไม่ต่ำต้อยในตระกูลจอร์จ เพียงแค่สิบกว่านาที ก็มีรถหลายคันขับมา จอดอยู่ที่ถนนด้านข้างที่พวกเขายืนกันอยู่
พื้นที่กว้างคนน้อยก็ดีอย่างนี้เอง กำลังช่วยเหลือจึงมาถึงได้รวดเร็วขนาดนี้ ถ้าหากอยู่ใน
เมืองหลวงของจีน พวกเมืองที่เหนือกว่าเมืองระดับหนึ่งอย่าง จงไห่ นั้น หากรถไม่ติดสองชั่วโมง ก็ถือว่านายโชคดีอย่างมาก
ชายอ้วนในชุดสูทสีขาวคนหนึ่ง ที่ด้านหลังมีบอดี้การ์ดรูปร่างสูงใหญ่ติดตามอยู่สองคนนั้น ได้เดิน
ออกมาจากกลุ่มชายฉรรจ์เจ็ดแปดคนที่โอบล้อมอยู่
“ฉันดูหน่อยสิว่าเป็นใคร แม้แต่ตระกูลจอร์จก็ยังไม่ให้เกียรติไม่ไว้หน้ากันเลย” ชายอ้วนคนนั้น
พูดขึ้นด้วยสีหน้าหม่นหมอง และท่าทางที่น่าเกรงขาม
“คุณพ่อ ก็คือพวกเขา ไอ้หนุ่มคนนี้ เขาดูถูกเจ้าบ้านตระกูลของพวกเรา! ” ฟาวล์เคสพูดเสียงดังขึ้น
จอร์จ พีเทอะ ซึ่งก็คือพ่อของฟาวล์เคส สายตาของเขาได้ชายตามองไปที่หลินหยุนและเย่จื่อเชี่ยน เห็นเป็นแค่วัยรุ่นชาวจีนสองคน ใบหน้าของจอร์จ พีเทอะก็แสดงความเหยียดหยามออกมา
แต่ว่า เมื่อเขามองเห็นคาร์นอตวิลเลียมที่กำลังยืนกอดอก และยิ้มเยาะอยู่นั้น สีหน้าก็เปลี่ยนไป
ทันที
จอร์จ พีเทอะเริ่มต้นจากสงสัย จากนั้นก็ยืนยัน จนในที่สุดก็เกิดความตกตะลึง
ฟาวล์เคสยังตะโกนโวยวายอย่างไม่รู้จักความเป็นความตาย: “คุณพ่อ ท่านจะต้องฆ่าเขาให้ได้ เมื่อครู่นี้เขาได้ใช้รองเท้าเหยียบย่ำบนใบหน้าอันหล่อเหลาของฉัน! ”
จอร์จ พีเทอะเดินขึ้นมาข้างหน้าทันที แล้วก็ตบไปที่หน้าของฟาวล์เคส
“หุบปาก นายไอ้เด็กโง่เง่า! ”
“เปิดตาของแกให้กว้างขึ้นแล้วมองดูให้ชัดเจนว่า เขาคือใคร! ”
ฟาวล์เคสถูกตบจนถึงกับงุนงง จ้องมองไปยังจอร์จ พีเทอะอย่างแข็งทื่อ ผ่านไปชั่วครู่ถึงตั้งสติ
กลับคืนมาได้
“คุณพ่อ ท่านกำลังทำอะไร! ”
“คนที่ดูถูกเหยียดหยามเจ้าบ้านตระกูลของพวกเราก็คือเขา!