จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ – บทที่ 1024 กดดันไปยังประเทศจีน
กองบัญชาการใหญ่กองทัพภาคเหนือ
ผู้บังคับบัญชาสูงสุดมองดูที่จอมอนิเตอร์ใหญ่ ขณะที่หลินหยุนก็กำลังหันหน้าเข้าหาจอภาพ
นั่นคือแววตาที่แสดงออกถึงอะไร?
ล้ำลึก เยือกเย็น โหดเหี้ยม หมางเมินต่อทุกสิ่ง!
นั่นไม่ใช่แววตาของมนุษย์อย่างแน่นอน
“ไม่ หลินชางฉองไม่ใช่คน เขาไม่ใช่คน เขาคือเทพ คือปีศาจ! ”
“ฉันจะสามารถสู้รบเอาชนะเทพปีศาจได้อย่างไรกัน! ”
ผู้บังคับบัญชาสูงสุดถึงกับทรุดตัวนั่งลงบนเก้าอี้ ควบคุมยับยั้งสติเอาไว้ไม่อยู่แล้ว
ทุกคนต่างก็เงียบกริบ มองไปที่เด็กหนุ่มผมดำที่กำลังย่างเท้าก้าวเดินอยู่นั้นทางหน้าจอมอนิเตอร์ใหญ่ ด้วยความเคารพและยำเกรงราวกับเทพสวรรค์
“ผู้บังคับบัญชา ต่อไปควรจะทำอย่างไรดี? ”
“เขามุ่งหน้ามาหาพวกเราอย่างแน่นอนแล้ว”
“ใช่เลย ต่อไปควรจะทำอย่างไรดีล่ะ? ”
“แม้แต่ระเบิดนิวเคลียร์ก็ยังไม่สามารถสังหารเขาได้ แล้วโลกใบนี้จะมีอะไรที่สามารถขัดขวางต้านทานเขาได้อีก? ”
ผู้บังคับบัญชาระดับสูงทั้งหมดในกองบัญชาการใหญ่กองทัพภาคเหนือ ต่างก็อึ้งไปกันหมดแล้ว
เวลานี้ ผู้บังคับบัญชาสูงสุดยังไงก็คือผู้บังคับบัญชาสูงสุด เขาได้ตั้งสติกลับคืนมาจากอารมณ์
ที่ท้อแท้ถอดใจ เริ่มต้นที่จะใจเย็นและใช้สติปัญญาแก้ไขปัญหา
“หาวิธีติดต่อไปยังหลินชางฉอง ฉันอยากจะเจรจากับเขา”
ผู้บังคับบัญชาสูงสุดพูดขึ้นอย่างใจเย็น
“อะไรนะ! ”
ทุกคนต่างตกใจงุนงงกันไปหมด เวลานี้หนีเอาตัวรอดก็จะไม่ทันอยู่แล้ว แล้วทำไมจะต้องไปติดต่อเจรจากับหลินชางฉองด้วยล่ะ?
“ผู้บังคับบัญชา ท่านคิดที่จะยอมแพ้อย่างนั้นเหรอ? ” ผู้บังคับบัญชาระดับสูงคนหนึ่ง ถามขึ้นด้วยความสงสัย
ผู้บังคับบัญชาสูงสุดมองไปที่เขาอย่างเย็นชา และพูดขึ้นว่า: “ต่อให้ฉันยอมแพ้ นายคิดว่าหลินชางฉองจะตอบตกลงไหมล่ะ? ”
“ตอนนี้ เกรงว่าสิทธิในการยอมแพ้ของพวกเราก็คงจะไม่มีแล้ว” ผู้บังคับบัญชาสูงสุดฝืนยิ้มอย่างขมขื่น
ผู้บังคับบัญชาระดับสูงคนนั้นหมดสิ้นคำพูดใด ๆ
แม้แต่ระเบิดนิวเคลียร์ก็ยังไม่กลัว รัสเซียหมดหนทางที่จะต้านทานหลินชางฉองแล้ว เวลานี้จะขอยอมแพ้ ซึ่งก็ถือว่าไม่มีความหมายอะไรเลย
พูดอีกอย่างหนึ่งว่า ตอนนี้รัสเซียก็คือเนื้อปลาที่วางอยู่บนเขียง รอให้หลินหยุนสับได้ตามสบายใจ
เทพปีศาจจะมารับการยอมแพ้จากพวกมดแมลงได้อย่างไรกัน
“ผู้บังคับบัญชาท่านต้องการจะเจรจากับหลินหยุน เตรียมที่จะเจรจาเรื่องอะไรล่ะ? ” เสนาธิการคนหนึ่งถามขึ้นด้วยความสงสัย
ผู้บังคับบัญชาสูงสุดถอนหายใจ: “ก็จะเจรจาในเรื่องของเงื่อนไข เงื่อนไขที่จะให้เขากลับออกไป”
“เพียงแค่เขายังจะอาศัยอยู่บนโลก เพียงแค่เขายังมีญาติสนิทมิตรสหายอยู่ที่จีน ถ้าอย่างนั้น
พวกเราก็สามารถมีเงื่อนไขที่จะทำให้เขาประทับใจและยอมรับได้”
คำพูดนี้ ทำให้ทุกคนที่จิตใจห่อเหี่ยว เกิดกำลังใจฮึกเหิมขึ้นมาในทันที
“ผู้บังคับบัญชาฉลาดหลักแหลมอย่างที่สุด! ”
“ฉันจะรีบส่งคนให้ไปตามหาหลินชางฉอง แล้วให้เขาพูดคุยกับผู้บังคับบัญชา”
ผู้บังคับบัญชาระดับสูงคนหนึ่งรีบโทรศัพท์จัดแจงหน้าที่ทันที
พวกเขาเหล่านี้ปฏิบัติงานกันอย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ ขณะที่หลินหยุนเพิ่งจะออกมาจากตำบลอูปะที่รกร้างว่างเปล่าได้ไม่นาน ก็มีเฮลิคอปเตอร์ลำหนึ่งตามหาเขาพบแล้ว
ชายรูปร่างสูงใหญ่ในชุดสูทสองคนเดินลงมาจากเครื่องบิน แล้วก็มาขัดขวางทางเดินของหลินหยุน
แม้ว่าทั้งสองคนจะแกล้งทำเป็นว่าสงบนิ่ง แต่ จากที่ขาทั้งสองข้างของพวกเขาสั่นเทานั้น ก็สามารถรับรู้ได้ว่าพวกเขาหวาดกลัวหลินหยุน
“ผู้บังคับบัญชาของพวกนายสั่งให้พวกนายมากันล่ะสิ? ” หลินหยุนถามขึ้นก่อน
ทั้งสองคนพูดขึ้นอย่างเคารพว่า: “ใช่แล้วท่าน ผู้บังคับบัญชาสูงสุดของกองทัพภาคเหนือ ต้องการที่จะพูดคุยเจรจากับท่านหน่อย? ”
ทั้งสองคนมีท่าทางที่เคารพและเกรงใจเป็นอย่างมาก
หลินหยุนไม่ต้องฟัง ก็รู้ได้ว่าพวกเขาคิดที่จะทำอะไร
“ไม่จำเป็นหรอก กลับไปบอกพวกเขาเถอะว่า ใครเป็นผู้นำในการโจมตีหุบเขาหิมะ ก็เตรียมตัวที่จะรับผลของการกระทำนั้นได้เลย”
ทั้งสองคนได้ยินแล้วก็เหงื่อไหลท่วมตัว
ผู้นำในการโจมตีหุบเขาหิมะนั้น พวกผู้บังคับบัญชาระดับสูงเกือบทุกคนของกองทัพภาคเหนือต่างก็เข้าร่วม โดยที่ผู้บังคับบัญชาสูงสุดของของกองทัพภาคเหนือเป็นผู้ที่สั่งการด้วยตนเอง
ได้ยินคำพูดของหลินชางฉองแล้ว ความหมายก็คือจะจัดการพวกผู้บังคับบัญชาระดับสูงของกองทัพภาคเหนือทั้งหมดเลย!
“ยัง ยังคงมีช่องทางในการเจรจาต่อรองอีกไหม? ”
ทูตทั้งสองคนถามขึ้นด้วยน้ำเสียงที่สั่นเทา
หลินหยุนมองไปที่พวกเขาทั้งสอง แล้วก็เดินหน้าต่อไป โดยได้หล่นคำพูดหนึ่งด้วยน้ำเสียงอันแผ่วเบาว่า: “ไม่มี”
มองไปยังหลินหยุนที่มุ่งหน้าเดินต่อไป ทูตทั้งสองคนต่างก็ตื่นตระหนกตกใจจนพูดอะไรไม่ออก
“รีบกลับไปเพื่อนำข่าวนี้รายงานให้กับผู้บังคับบัญชาสูงสุดรับทราบเถอะ! ”
ผ่านไปชั่วครู่ ทูตทั้งสองคนจึงตั้งสติกลับขึ้นได้ จึงรีบขึ้นนั่งบนเฮลิคอปเตอร์แล้วก็เดินทางกลับไป
กองบัญชาการใหญ่กองทัพภาคเหนือ
ได้ฟังคำตอบของหลินหยุนแล้ว จิตใจของพวกผู้บังคับบัญชาระดับสูงทุกคนของกองทัพภาคเหนือ ก็หวาดวิตกราวกับถูกปกคลุมไปด้วยเมฆดำ
ทุกคนล้วนหนักอกหนักใจอย่างที่สุด
เหมือนกับว่าบนศีรษะของทุกคน มีมีดแขวนห้อยอยู่เล่มหนึ่ง สามารถที่จะตกหล่นลงมาปลิดชีวิตพวกเขาได้ทุกเมื่อ
“ทำอย่างไรกันดี? ”
“หลินชางฉองต้องการที่จะสังหารพวกเราให้สิ้นซาก พวกเราควรจะทำอย่างไรกันดี? ”
“ผู้บังคับบัญชา สั่งการมาเถอะ เพื่อให้ทั้งกองทัพภาคเหนือเคลื่อนขบวนออกรบทั้งหมด ฉันไม่เชื่อว่าขนาดนี้แล้วยังจะไม่สามารถจัดการสังหารหลินชางฉองคนเดียวได้! ”
แม่ทัพคนหนึ่งที่เคยผ่านการรบศึกหนักมาแล้วหลายครั้ง กัดฟันพูดขึ้นอย่างดุดัน
ผู้บังคับบัญชาสูงสุดมองไปที่เขา ด้วยแววตาที่เย็นชา
“นายคิดที่จะใช้ชีวิตของพวกทหารหลายแสนนาย เพื่อแลกกับชีวิตของพวกเราอย่างนั้นเหรอ? ”
“พวกเราตายไปแล้ว แต่กองทัพภาพเหนือยังคงมีอยู่”
“ถ้าหากพวกทหารเหล่านั้นตายไปแล้ว ต่อให้พวกเรายังมีชีวิตอยู่ กองทัพภาพเหนือก็คงจะไม่มีเหลือแล้ว”
ทุกคนเงียบกริบ
พวกเขาอยู่ในตำแหน่งสูงมานานแล้ว เพียงแค่มีกำลังทหารอยู่ในมือ พวกเขาจะเต็มใจรอคอยความตายโดยไม่ทำอะไรได้อย่างไรกัน?
“อย่างนั้นควรทำอย่างไรดี? พวกเราคงจะไม่อยู่อย่างนี้เพื่อรอให้หลินชางฉองมาฆ่าพวกเราใช่ไหม? ” แม่ทัพคนหนึ่งอดไม่ได้ที่จะถามขึ้น
เมื่ออยู่ต่อหน้าความตาย หลายคนต่างก็เกิดความเห็นแก่ตัวขึ้น ขนาดมดมันยังรักตัวกลัวตาย แล้วนับประสาอะไรกับคนล่ะ?
“ขอเวลาฉันคิดหาวิธีสักหน่อย? คงจะสามารถคิดหาวิธีการทางออกได้อย่างแน่นอน” ผู้บังคับบัญชาสูงสุดพูดขึ้นด้วยความหนักแน่น
“หากไม่ได้จริง ๆ ก็รายงานสถานการณ์ให้กับประธานาธิบดีรับทราบเถอะ! ” เสนาธิการคนหนึ่งพูดขึ้น
ผู้บังคับบัญชาสูงสุดดวงตาเป็นประกาย และพูดขึ้นว่า: “นายเตือนฉันพอดีเลย”
“ตอนนี้ฉันจะรีบโทรศัพท์หาประธานาธิบดี”
ผู้บังคับบัญชาสูงสุดกลับไปยังห้องพักรับรองของตนเอง แล้วก็โทรศัพท์ไปหาประธานาธิบดีรัสเซีย
เวลาผ่านไปสิบกว่านาทีเต็ม ๆ ผู้บังคับบัญชาสูงสุดจึงกลับมายังกองบัญชาการใหญ่
“มีวิธีการแล้วหรือยัง? ” ทุกคนมองไปที่ผู้บังคับบัญชาสูงสุดอย่างเต็มความคาดหวัง โดยหวังว่าเขาจะนำข่าวดีกลับมา
ผู้บังคับบัญชาสูงสุดพยักหน้า: “บางที อาจจะสามารถคลี่คลายวิกฤตนี้ลงได้”
“จริงเหรอ! อย่างนั้นก็ดีมากเลย! ”
ทุกคนต่างดีอกดีใจกันเป็นพิเศษ
ผู้บังคับบัญชาสูงสุดพูดขึ้นว่า: “แต่ทุกคนอย่าได้เพิ่งดีใจกันไปก่อนล่วงหน้า ทางประธานาธิบดีได้ติดต่อยังประเทศจีนแล้ว โดยให้ผู้บริหารระดับสูงของจีนกดดันหลินชางฉอง”
มีคนถามขึ้นว่า: “ถ้าหากผู้บริหารระดับสูงของจีนไม่ตกลงแล้วจะทำอย่างไร? ”
ผู้บังคับบัญชาสูงสุดยิ้มและพูดขึ้นว่า: “ถ้าอย่างนั้นพวกเราก็กดดันไปยังผู้บริหารระดับสูงของจีน พวกเขาไม่ใช่หลินชางฉอง ถ้าหากปราศจากความช่วยเหลือจากพวกเราแล้ว การวิจัยค้นคว้าอาวุธต่าง ๆ มากมายของพวกเขาก็คงจะถูกบังคับให้ยุติลง”
“ถึงขนาดแม้แต่ด้านเศรษฐกิจ ก็จะได้รับผลกระทบด้วยเช่นกัน”
“แต่ว่า พวกเขาสามารถที่จะติดต่อกับหลินชางฉองได้เหรอ? ” มีคนถามขึ้น
“ใช่เลย หลินชางฉองนั้นรวดเร็วอย่างมาก คาดว่าอีกสักครึ่งชั่วโมง ก็คงจะมาถึงพวกเราที่นี่แล้ว” มีคนพูดเตือนขึ้นอย่างเป็นกังวล
ผู้บังคับบัญชาสูงสุดพูดว่า: “ครึ่งชั่วโมง ก็เพียงพอแล้ว”
“ต่อให้ทางการจีนไม่สามารถติดต่อไปยังหลินชางฉองได้ แต่ก็สามารถติดต่อมาหาพวกเราได้ พวกเราก็อยู่ที่นี่แล้วนำคำพูดของผู้บริหารระดับสูงของจีน บอกต่อให้กับหลินชางฉอง”
ทุกคนจึงเบาใจลงได้บ้างแล้ว
“ผู้บังคับบัญชาฉลาดหลักแหลมอย่างที่สุด! ”
ประเทศจีน ห้องพักรับรองของประธานาธิบดีจีน
หงซานเหอเข้ามาด้านในอย่างเร่งรีบ แล้วก็ทำความเคารพแบบทหารต่อประธานาธิบดีจีน และถามขึ้นว่า: “เกิดเรื่องอะไรขึ้นเหรอ ท่านถึงได้เรียกฉันเข้าพบอย่างเร่งด่วนขนาดนี้? ”
ประธานาธิบดีจีนเดิมทีเป็นผู้ที่ไม่เคยแสดงอาการดีใจหรือโมโหออกมาทางสีหน้าท่าทาง แต่ใน ครั้งนี้กลับยิ้มแย้มหัวเราะขึ้นอย่างที่ไม่ค่อยจะพบเห็นมาก่อน
“เมื่อครู่ประธานาธิบดีของรัสเซียได้พูดคุยโทรศัพท์กับฉัน โดยพวกเขากำลังประสบกับปัญหาความเดือดร้อน ต้องการให้พวกเราช่วยเหลือพวกเขา”
หงซานเหอถามขึ้นด้วยความสงสัยว่า:“สามารถที่จะทำให้ประธานาธิบดีรัสเซียโทรศัพท์มาร้องขอความช่วยเหลือกับท่านด้วยตนเองนี้ หรือว่าทางสหรัฐอเมริกาจะลงโทษคว่ำบาตรพวกเขาแล้ว? ”
จากนั้น หงซานเหอก็ปฏิเสธมุมมองความคิดของตนเองลง: “ไม่ถูกต้อง ทางสหรัฐอเมริกาทำการลงโทษคว่ำบาตรรัสเซียมาโดยตลอดอย่างไม่หยุด คงไม่น่าจะใช่เหตุผลนี้”
เห็นใบหน้าท่าทางที่ยิ้มแย้มของประธานาธิบดีจีน หงซานเหอก็เกิดความคิดอย่างฉับพลันขึ้นในใจทันใดนั้น ก็ได้พูดขึ้นอย่างดีใจว่า: “หรือว่า……ไอ้หนุ่มนั้นยังมีชีวิตอยู่!